สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 30 ประจำฤดูกาล 2567/68

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 30 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน

1. แข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 วันที่ 1 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร ฟุตบอลราชนาวี พบ สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด (สโมสร ฟุตบอลราชนาวี ร้องเรียนมา 3 เหตุการณ์)

- เหตุการณ์ที่ 1

ในนาทีที่ 35 ผู้เล่นหมายเลข 79 นายธนดล ศุภผล สโมสร ฟุตบอลราชนาวี เลี้ยงบอลอยู่บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ได้ถูกผู้เล่นหมายเลข 34 นายนรงฤทธิ์ บุญสุข สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด เข้ามาเตะไปที่บริเวณข้อพับจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่ได้มีการเป่าฟาล์วแต่อย่างใด

- ผลพิจารณาโทษ

ลงโทษนายนิรุตติ์ แผนจันทึก ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 สัปดาห์ เนื่องจากขณะที่มีการแย่งชิงลูกบอลผู้เล่นหมายเลข 34 นายนรงฤทธิ์ บุญสุข สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด เจตนาเตะลูกบอลแต่พลาดไปโดนที่ขาของผู้เล่นหมายเลข 79 นายธนดล ศุภผล สโมสร ฟุตบอลราชนาวี ในลักษณะของการเล่นที่ขาดการไตร่ตรองยั้งคิด (Reckless) เป็นการกระทำผิดที่ต้องให้เตะโทษโดยตรงและต้องถูกคาดโทษ (ใบเหลือง) ตามกติกาข้อ 12 หน้า 105 การที่ผู้ตัดสินไม่มีการเป่าฟาล์ว ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง

- เหตุการณ์ที่ 2

ในนาทีที่ 68 หลังจากที่ผู้เล่นหมายเลข 12 นายชุติคม กลิ่นจำปาศรี สโมสร ฟุตบอลราชนาวี ได้ล้มตัวนอนสไลด์ลูกบอลนั้น ผู้เล่นหมายเลข 17 นายอภิชาติ สาหร่าย สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด ใช้เท้าขวาลากมาเตะที่บริเวณบริเวณใบหน้าและลำตัวของผู้เล่นคนดังกล่าว ซึ่งผู้ตัดสินได้ทำการเป่าฟาล์วและทำการคาดโทษ (ใบเหลือง) ให้แก่ผู้เล่นหมายเลข 17 นายอภิชาติ สาหร่าย สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด

- ผลพิจารณาโทษ

ลงโทษนายนิรุตติ์ แผนจันทึก ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 17 นายอภิชาติ สาหร่าย สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด เจตนาใช้เท้าขวาเตะไปที่บริเวณใบหน้าและลำตัว เป็นการเล่นนอกเกม ซึ่งเข้ากรณีของการประพฤติผิดอย่างร้ายแรง (Violent Conduct) ผู้ที่กระทำผิดต้องถูกไล่ออก (ใบแดง) ตามกติกาข้อ 12 หน้า 113 - 115 แต่ผู้ตัดสินได้เป่าฟาล์วและคาดโทษ (ใบเหลือง) ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง

- เหตุการณ์ที่ 3

ในนาทีที่ 90+4 ผู้เล่นหมายเลข 7 Mr. JAEHYUK LIM สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด ถูกผู้เล่นหมายเลข 46 นายสิทธิศักดิ์ อินทร์ใย สโมสร ฟุตบอลราชนาวี เข้ามาแย่งลูกบอลจากทางด้านหลัง ก่อนที่ผู้เล่นคนดังกล่าว จะทิ้งตัวล้มลงในกรอบเขตโทษ ซึ่งผู้ตัดสินได้ทำการเป่าฟาล์วและให้จุดโทษกับสโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด

- ผลพิจารณาโทษ

ลงโทษนายนิรุตติ์ แผนจันทึก ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน เนื่องจากผู้เล่นทั้งสองได้ใช้มือต่างคนต่างดึง โดยผู้เล่นหมายเลข 46 นายสิทธิศักดิ์ อินทร์ใย สโมสร ฟุตบอลราชนาวี (ฝ่ายรับ) ดึงแล้วปล่อยนอกเขตโทษ ส่วนผู้เล่นหมายเลข 7 Mr. JAEHYUK LIM สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด (ฝ่ายรุก) เจตนาดึงตั้งแต่นอกเขตโทษต่อเนื่องไปจนถึงในเขตโทษแล้วล้มลง ในทางปฏิบัติและการพิจารณาเมื่อต่างคนต่างดึงพร้อมกันจะลงโทษให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ได้ โดยเฉพาะผู้เล่นหมายเลข 46 นายสิทธิศักดิ์ อินทร์ใย สโมสร ฟุตบอลราชนาวี (ฝ่ายรับ) ที่ดึงและปล่อยนอกเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินกลับเป่าให้สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด (ฝ่ายรุก) ได้เตะโทษ ณ จุดโทษ ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง

(สรุปบทลงโทษ เหตุการณ์ที่ 1-3)

นายนิรุตติ์ แผนจันทึก ผู้ตัดสิน ในเหตุการณ์ที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 สัปดาห์, เหตุการณ์ที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 สัปดาห์ และเหตุการณ์ที่ 3 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน (รวมผลการพิจารณาโทษ นายนิรุตติ์ แผนจันทึก ผู้ตัดสิน ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน 4 สัปดาห์)

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 วันที่ 1 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร แม่โจ้ ยูไนเต็ด พบ สโมสร พิษณุโลก เอฟซี (สโมสร พิษณุโลก เอฟซี ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์)

- เหตุการณ์

ในนาทีที่ 51 ผู้เล่นหมายเลข 25 Mr. EKENE VICTOR AZIKE สโมสร พิษณุโลก เอฟซี ถูกผู้เล่นหมายเลข 34 นายอรรถพล กันหนู สโมสร แม่โจ้ ยูไนเต็ด กระโดดเข้าสกัดโดยใช้ขาซ้ายสกัดไปที่ต้นขาขวาของผู้เล่นคนดังกล่าวจนล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาล์ว ทำให้สโมสร พิษณุโลก เอฟซี ไม่ได้ลูกจุดโทษ

- ผลพิจารณาโทษ

ลงโทษนายณัฐวุฒิ พรชัยวิรุฬห์ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้เล่นหมายเลข 34 นายอรรถพล กันหนู สโมสร แม่โจ้ ยูไนเต็ด เป็นการขัดขาผู้เล่นหมายเลข 25 Mr. EKENE VICTOR AZIKE สโมสร พิษณุโลก เอฟซี ล้มลงในเขตโทษ ถือเป็นความผิดตามกติกาข้อ 12 หน้า 105 เกี่ยวกับการให้เตะโทษโดยตรง และเนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในเขตโทษ ต้องให้เตะโทษ ณ จุดโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่มีการเป่าฟาล์ว ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 วันที่ 2 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร ภูเก็ต อันดามัน เอฟซี พบ สโมสร สงขลา เอฟซี (สโมสร สงขลา เอฟซี ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์)

- เหตุการณ์

ในนาทีที่ 75 ผู้เล่นหมายเลข 11 นายพรเทพ หีมหล๊ะ สโมสร สงขลา เอฟซี ได้เปิดฟรีคิก ไปให้ผู้เล่นหมายเลข 5 นายอับดุลฮาฟิส นิบู สโมสร สงขลา เอฟซี โหม่งลูกบอลไปสัมผัสโดนแขนของผู้เล่นหมายเลข 4 นายอัครเดช สิงโตทอง สโมสร ภูเก็ต อันดามัน เอฟซี ที่ยกแขนขึ้นมา แต่ผู้ตัดสินไม่ได้มีการเป่าฟาล์วแฮนด์บอล ทำให้สโมสร สงขลา เอฟซี ไม่ได้จุดโทษ

- ผลพิจารณาโทษ

ลงโทษนายนครินทร์ ขนานใต้ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (3) พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 เดือน เนื่องจากขณะที่มีการแย่งชิงลูกบอลในเขตโทษ ผู้เล่นหมายเลข 4 นายอัครเดช สิงโตทอง สโมสร ภูเก็ต อันดามัน เอฟซี (ฝ่ายรับ) เจตนากระโดดใช้มือเล่นลูกบอล เป็นการกระทำผิดที่ต้องให้เตะโทษ ณ จุดโทษ ตามกติกาข้อ 12 หน้า 106 เกี่ยวกับการกระทำผิดเกี่ยวกับการเล่นลูกบอลด้วยมือ แต่ผู้ตัดสินไม่มีการเป่าฟาล์ว ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง

4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 วันที่ 2 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร อ่างทอง เอฟซี พบ สโมสร ลพบุรี ซิตี้ (สโมสร ลพบุรี ซิตี้ ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์)

- เหตุการณ์

ในนาทีที่ 65 ผู้เล่นหมายเลข 7 นายนพคุณ ยิ่งบำรุง สโมสร ลพบุรี ซิตี้ ถูกผู้เล่นหมายเลข 3 นายธนากร สถานพงษ์ สโมสร อ่างทอง เอฟซี เข้ามาปะทะจนล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาล์ว ทำให้สโมสร ลพบุรี ซิตี้ ไม่ได้จุดโทษ

- ผลพิจารณาโทษ

ลงโทษนายบุญเจริญ โพธิ์ชัย ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (3) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากขณะที่มีการวิ่งเข้าไปแย่งชิงลูกบอลในเขตโทษ ผู้เล่นหมายเลข 7 นายนพคุณ ยิ่งบำรุง สโมสร ลพบุรี ซิตี้ ครอบครองลูกบอลโดยสมบูรณ์ ได้ถูกผู้เล่นหมายเลข 3 นายธนากร สถานพงษ์ สโมสร อ่างทอง เอฟซี วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วและทำการชนด้วยไหล่ แต่ในหลักการพิจารณาเรื่องของ (Fair Charge) ผู้เล่นจะต้องอยู่ในระยะเท่ากันในการที่จะแย่งชิงลูกบอล ทิศทางของการวิ่งจะต้องเป็นทิศทางเดียวกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ผู้เล่นหมายเลข 3 นายธนากร สถานพงษ์ สโมสร อ่างทอง เอฟซี ได้กระโดดเข้าไปหาผู้ต่อสู้ และการชนนั้นเป็นการชนที่มาจากทางด้านหลังผู้ต่อสู้ จึงไม่ใช่ (Fair Charge) การที่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาล์ว ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง

พิจารณาเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอล

5. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการรีโว่ ไทยลีก (ไทยลีก 1) วันที่ 9 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ สโมสร การท่าเรือ เอฟซี

- เหตุการณ์

หลังจบการแข่งขันและแฟนบอลหรือกองเชียร์ทีมเยือน (การท่าเรือ เอฟซี) ได้ออกจากสนามแข่งขันไปแล้ว ได้รับแจ้งจากฝ่ายรักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ทีมเหย้า (เมืองทอง ยูไนเต็ด) ว่าได้มีเก้าอี้นั่งบนอัฒจันทร์แฟนบอลหรือกองเชียร์ทีมเยือนพัง แตกหัก จึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานทั้งก่อนและหลังการแข่งขัน ซึ่งอาจจะเกิดจากการยืนและหรือกระโดดเชียร์ของแฟนบอล

- ผลพิจารณาโทษ

ลงโทษกองเชียร์สโมสรการท่าเรือ เอฟซี ทำลายทรัพย์สินของทีมคู่แข่งขันเสียหาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.6 ปรับเงิน 30,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายตามจริงแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายตามที่มีการเรียกร้องมา

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ

ข้อ 4.6 กองเชียร์ทีมใด หรือกลุ่มบุคคลใด หรือบุคคลใด กระทำการใด ๆ ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขัน หรือกองเชียร์ของทีมคู่แข่งขันภายในบริเวณสถานที่จัดการแข่งขัน โดยมีหลักฐานปรากฏชัดเจน องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่เป็นผู้กระทำหรือองค์กรสมาชิกทีมเหย้า จะถูกปรับเงินดังนี้

- ครั้งแรกปรับ 30,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายตามจริงแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายตามที่มีการเรียกร้องมา

- ครั้งต่อไปปรับครั้งละ 50,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายตามจริงแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหาย ที่เรียกร้องมา รวมทั้งอาจพิจารณาเพิ่มโทษ

6. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 วันที่ 8 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ พบ สโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี

- เหตุการณ์

นาทีที่ 67 ผู้เล่นหมายเลข 58 นายณัฐวุฒิ ทองชั้น สโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี กระโดดขึ้นแย่งบอลกับทางผู้เล่นหมายเลข 17 นายปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ ล้มลง ผู้ตัดสินได้เป่าฟาวล์ผู้เล่นหมายเลข 58 ณัฐวุฒิ ทองชั้น สโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี และคาดโทษใบเหลือง ซึ่งเป็นใบเหลืองที่ 2 แก่ผู้เล่นผู้เล่นหมายเลข 58 ณัฐวุฒิ ทองชั้น สโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี

ต่อมาผู้เล่นสโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี ได้เข้าไปประท้วงว่าลูกนี้ไม่น่าจะได้เป็นใบเหลือง หลังจากนั้น Mr.JACKY ABDUL KOULIBALY ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี ได้กวักมือเรียกนักกีฬาสโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี ให้ออกมาข้างสนาม ทีมงานผู้ตัดสินได้ทำการปรึกษากันแล้ว จึงยกเลิกใบเหลืองที่ 2 และใบแดง แก่ผู้เล่นหมายเลข 58 ณัฐวุฒิ ทองชั้น สโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี เนื่องจากเห็นว่า ผู้เล่นหมายเลข 58 นายณัฐวุฒิ ทองชั้น สโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี ได้กระทำฟาวล์เป็นฟาวล์ปกติ (Careless) นักกีฬาสโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี จึงกลับเข้าสนามแข่งขัน หลังจากนั้นนาทีที่ 71 ผู้ตัดสินเป่าเริ่มการแข่งขัน และทำการแข่งขันต่อจนจบโดยไม่มีเหตุการณ์บานปลาย รวมระยะเวลาที่การแข่งขันหยุดไปประมาณ 4 นาที

- ผลพิจารณาโทษ

1) ลงโทษ Mr.JACKY ABDUL KOULIBALY ผู้ช่วยผู้จัดการทีม สโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี การประท้วงโดยสั่งให้นักกีฬาฟุตบอลของตนหยุดการแข่งขันชั่วคราว จนเป็นเหตุให้การแข่งขันที่ดำเนินอยู่หยุดชะงักลง มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.9 ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 7,500 บาท และทีมต้องถูกลงโทษปรับตามข้อ 3.8

2) ลงโทษสโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี ประท้วงการตัดสินทำให้การแข่งขันที่กำลังดำเนินอยู่ต้องหยุดชะงักลงชั่วขณะหนึ่ง ลงโทษสโมสร หัวหิน มาราเลน่า เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.8 ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 7,500 บาท และต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย (ถ้ามี)

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ

ข้อ 2.9 เจ้าหน้าที่ทีมประท้วงโดยสั่งให้นักกีฬาฟุตบอลของตนหยุดการแข่งขันชั่วคราว จนเป็นเหตุให้การแข่งขันที่ดำเนินอยู่หยุดชะงักลงชั่วขณะหนึ่ง ปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 50,000 บาท และทีมต้องถูกลงโทษปรับตามข้อ 3.8 เจ้าหน้าที่ทีมประท้วงโดยการสั่งให้นักกีฬาฟุตบอลของตนผละออกจากการแข่งขัน ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 50,000 บาท และทีมต้องถูกลงโทษปรับตามข้อ 3.9

ข้อ 3.8 ทีมใดประท้วงการตัดสินโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้การแข่งขันที่กำลังดำเนินอยู่ต้องหยุดชะงักลงชั่วขณะหนึ่ง จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท และต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย

7. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 วันที่ 8 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร แปดริ้ว ซิตี้ พบ สโมสร เอซีดีซี เอฟซี

- เหตุการณ์

ในนาทีที่ 79 ขณะที่บอลอยู่นอกการเล่น ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ได้แจ้งผู้ตัดสินว่า มีกองเชียร์คาดว่าน่าจะเป็นกองเชียร์สโมสร แปดริ้ว ซิติ้ เจตนาขับขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณริมรั้วสนามแข่งขัน ซึ่งเป็นบริเวณอัฒจันทร์ฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก ที่ไม่ได้เปิดใช้งาน ไม่มีรั้วกั้นบริเวณทางเข้าอัฒจันทร์ ซึ่งเป็นถนนที่รถสามารถขับเข้ามาได้ และไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุด ซึ่งใกล้ตำแหน่งที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ทำหน้าที่อยู่ และได้ตะโกนด่าและใช้วาจาคุกคามทางเพศ ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ได้หันหน้าไปมอง แล้วกองเชียร์คนดังกล่าวยังตะโกนด่าต่อว่าอีกครั้ง เมื่อทางผู้ควบคุมการแข่งขันทราบเรื่อง ได้ลงไปประสานกับทางเจ้าหน้าที่ LOC สนาม ให้ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปช่วยดูแลบริเวณนั้น กองเชียร์คนดังกล่าวได้รีบขับรถจักรยานยนต์ออกจากบริเวณนั้นไป ซึ่งขณะที่กองเชียร์สโมสร แปดริ้ว ซิติ้ ตะโกนด่านั้น บอลอยู่นอกการเล่น เนื่องจากมีการปฐมพยาบาลนักกีฬาสโมสร เอซีดีซี เอฟซี ผู้ตัดสินยังไม่ได้ให้เริ่มเล่น และหลังจากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดไปยืนประจำจุดบริเวณผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 โดยมีสาเหตุมาจากการไม่พอใจที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ยกล้ำหน้าสโมสรแปดริ้ว ซิตี้ ในนาทีที่ 78

- ผลพิจารณาโทษ

1) ลงโทษกองเชียร์สโมสร แปดริ้ว ซิตี้ ด่าเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ข่มขู่ ดูหมิ่น เหยียดหยาม มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 7,500 บาท

2) ลงโทษสโมสร แปดริ้ว ซิตี้ มีความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัย ไม่กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ รปภ. ประจำตามจุดต่าง ๆ ให้ครอบคลุมงานรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน ทั่วพื้นที่ของสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (3) ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ

ข้อ 4.1 ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท

- หากการกระทำผิดตามวรรคแรก กระทำโดยบุคคลหลายคนโดยพร้อมเพรียงกัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท

- หากเป็นการกระทำโดยผ่านเครื่องโทรโข่ง หรือเครื่องขยายเสียงประกอบการเชียร์ หรือถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อออนไลน์ ปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท และห้ามนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าสถานที่จัดการแข่งขัน 1 ถึง 4 นัด

ข้อ 5.3.18 ความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน

(3) หากองค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้า มีข้อบกพร่องในระบบงานรักษาความปลอดภัย ที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน จะถูกลงโทษปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท และ/หรือ ห้ามจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 1 นัดเป็นอย่างน้อย จนกว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นให้ผ่านการรับรองจากฝ่ายจัดการแข่งขัน

8. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 วันที่ 9 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร ยะลา ซิตี้ พบ สโมสร เอฟซี ยะลา

- เหตุการณ์

หลังจบการแข่งขัน ขณะที่ผู้ตัดสินเดินเข้าห้องพัก ได้มีกองเชียร์สโมสร เอฟซี ยะลา ขว้างกระดาษใส่ผู้ตัดสินแต่ไม่โดน และได้สาดน้ำจากขวดน้ำโดนผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้ามาห้ามปราม

- ผลพิจารณาโทษ

1) ลงโทษกองเชียร์สโมสร เอฟซี ยะลา ขว้างปาหรือกระทำด้วยประการใด ให้วัสดุหรือสิ่งของอื่นใด เข้าไปในสนามแข่งขัน พื้นที่รอบสนามแข่งขัน และกระทำต่อเจ้าหน้าที่การแข่งขันอาจเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นได้ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.4 ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 7,500 บาท

2) ลงโทษสโมสร ยะลา ซิตี้ มีความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในมาตรการห้ามและตรวจเช็คการพกพาหรือนำวัสดุที่อาจแปรสภาพใช้เป็นสิ่งของทำร้ายกัน หรือก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น ขวดน้ำ เข้าไปในอัฒจันทร์ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (1) ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 7,500

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ

ข้อ 4.4 กองเชียร์ทีมใด หรือกลุ่มบุคคลใด หรือบุคคลใด ขว้างปาหรือกระทำด้วยประการใด ให้วัสดุหรือสิ่งของอื่นใด เข้าไปในสนามก็ดี หรือกระทำต่อนักกีฬาฟุตบอล หรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขันก็ดี องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่เป็นผู้กระทำ และ/หรือ องค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้าที่ปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวต้องรับโทษ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท

ข้อ 5.3.18 ความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน

(1) บกพร่องในการตรวจเช็คหรือควบคุมไม่ให้กองเชียร์หรือบุคคลใด นำขวดน้ำ พลุ ประทัดดอกไม้ไฟ หรือวัสดุที่สามารถนำไปใช้ในการทำร้ายกันได้ เข้าไปในสถานที่จัดการแข่งขัน หรืออัฒจันทร์ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท

9. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 วันที่ 9 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร วีอาร์เอ็น เมืองนนท์ เอฟซี พบ สโมสร กาญจนบุรี ซิตี้

- เหตุการณ์

เริ่มการแข่งขันครึ่งเวลาแรกช้ากว่า Official Countdown ไป 2 นาที (เริ่มการแข่งขันเวลา 16.02 น.) จากสาเหตุที่สโมสร วีอาร์เอ็น เมืองนนท์ เอฟซี ออกจากห้องพักล่าช้า โดยผู้ควบคุมการแข่งขันได้เข้าไปตามถึง 3 ครั้ง และเมื่อลงสู่สนามยังมีการบูมถึง 2 ครั้ง ทั้งข้างสนาม และในสนาม

- ผลพิจารณาโทษ

ลงโทษทีม วีอาร์เอ็น เมืองนนท์ เอฟซี ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการนับเวลาถอยหลัง ภายในระยะเวลาที่กำหนด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 เป็นความผิดครั้งแรก จึงลงโทษเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ

ข้อ 3.6 ต้องทำตามกำหนดการ ขั้นตอน และการนับเวลาถอยหลัง (OFFICIAL COUNTDOWN) ภายในระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะเป็นความผิด ไม่ว่าจะเริ่มการแข่งขันในเวลาได้หรือไม่ก็ตาม

- ครั้งแรก เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)

- ครั้งต่อไป จะถูกปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 60,000 บาท และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)

10. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 วันที่ 9 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร สมุทรสงคราม ซิตี้ พบ สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด

- เหตุการณ์

ฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้มีหนังสือถึงสโมสร สมุทรสงคราม ซิตี้ จำนวน 2 ฉบับ โดยขอให้สโมสรฯ ดำเนินการปรับปรุงดูแลพื้นสนามแข่งขันให้มีหญ้าปกคลุม และมีความราบเรียบเสมอกันทั่วทั้งสนาม ตลอดฤดูกาลแข่งขัน โดยมีหนังสือเลขที่ TL-097/2568 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 (เป็นการส่งหนังสือครั้งที่ 1) และหนังสือเลขที่ TL-125/2568 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 (เป็นการส่งหนังสือครั้งที่ 2) ต่อมานัดการแข่งขันวันที่ 8 มีนาคม 2568 ระหว่าง สโมสร สมุทรสงคราม ซิตี้ พบ สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด ฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ได้รับรายงานจากผู้ควบคุมการแข่งขันรายงานสภาพสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม ว่าในวันแข่งขันผู้ควบคุมการแข่งขันเดินทางมาถึงสนามและได้ทำการตรวจสภาพสนามแข่งขัน พบว่าพื้นสนามมีหญ้าปกคลุมไม่ทั่วทั้งสนาม โดยมีหญ้าแห้งและมีหญ้าตายหลายจุด

- ผลพิจารณาโทษ

ลงโทษสโมสร สมุทรสงคราม ซิตี้ พื้นสนามมีหญ้าปกคลุมไม่ทั่ว หญ้าบางหลายจุด พื้นสนามไม่เรียบ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.1.8 ครั้งแรก ปรับเงิน 50,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 12,500 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ

ข้อ 5.1.8 พื้นสนามที่ใช้แข่งขันไม่สมบูรณ์ กล่าวคือ พื้นสนามแข็งมาก หรือไม่เรียบ หรือมีหญ้าปกคลุมไม่ทั่ว โดยเฉพาะบริเวณเขตโทษหรือเขตประตู หรือเส้นแสดงเขตต่าง ๆ ไม่ชัดเจน แต่ละกรณีมีโทษดังนี้

- ครั้งแรกปรับ 50,000 บาท

- ครั้งที่สองห้ามใช้แข่งขันชั่วคราว

- ครั้งที่สามห้ามใช้ตลอดฤดูกาล

11. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 วันที่ 1 มีนาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร ฟุตบอลราชนาวี พบ สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด

- เหตุการณ์

นาทีที่ 68 ผู้เล่นหมายเลข 12 นายชุติคม กลิ่นจำปาศรี สโมสร ฟุตบอลราชนาวี ล้มตัวสไลด์บอลจากผู้เล่นหมายเลข 17 นายอภิชาติ สาหร่าย สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด โดยเป็นการเข้าสกัดที่ฟุตบอลตามจังหวะปกติ แต่ผู้เล่นหมายเลข 17 นายอภิชาติ สาหร่าย สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด ได้ใช้เท้าขวาลาก มาเตะที่บริเวณใบหน้าของผู้เล่นหมายเลข 12 นายชุติคม กลิ่นจำปาศรี สโมสร ฟุตบอลราชนาวี ที่กำลังล้มตัวนอนอยู่ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าว เป็นการเล็งเห็นผลให้ผู้เล่นหมายเลข 12 นายชุติคม กลิ่นจำปาศรี สโมสร ฟุตบอลราชนาวี ได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและทรวงอก ที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจโดยตรงใช่หรือไม่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ตัดสินได้พิจารณาให้โทษเป็นเพียงใบเหลืองแก่ผู้เล่นหมายเลข 17 นายอภิชาติ สาหร่าย สโมสร บ้านค่าย ยูไนเต็ด ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง

- ผลพิจารณาโทษ

ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 17 นายอภิชาติ สาหร่าย สโมสรบ้านค่าย ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับ ข้อ 1.1.2 (1) ใบแดง (Violent Conduct) ถูกพักการแข่งขัน 2 นัด และปรับเงิน 20,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 5,000 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ

บทที่ 2 ข้อ 2.1.6 “คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท มีอำนาจเพิ่มโทษ หรือลดโทษ หรือเพิกถอนโทษ โดยไม่เกี่ยวข้องกับผลการแข่งขัน...”

บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 “ในกรณีที่นักกีฬาฟุตบอลกระทำความผิดในระหว่างการแข่งขัน แต่ไม่ได้ถูกคาดโทษ (ได้รับใบเหลือง) หรือไม่ได้ถูกให้ออกจากการแข่งขัน (ได้รับใบแดง) คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สามารถพิจารณาลงโทษการกระทำดังกล่าวได้ โดยนำเกณฑ์การกำหนดโทษตามข้อ 1.1 มาบังคับใช้โดยอนุโลม หรือหากเป็นการกระทำที่เข้าองค์ประกอบของระเบียบข้อใดข้อหนึ่งโดยเฉพาะ ก็ให้พิจารณาลงโทษตามระเบียบข้อดังกล่าวได้ แต่หากอัตราโทษตามระเบียบข้อเฉพาะนั้น อัตราโทษน้อยกว่าโทษตามข้อ 1.1 ให้คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท มีอำนาจกำหนดโทษตามข้อ 1.1 ที่มีอัตราโทษสูงกว่าได้”

ข้อ 1.1 ข้อย่อย 1.1.2 ถูกผู้ตัดสินให้ออกจากการแข่งขัน (ได้รับใบแดง) ด้วยการกระทำผิด ดังนี้

(1) ประพฤติผิดอย่างร้ายแรง (Violent Conduct) เช่น นักกีฬาฟุตบอลเจตนาทำร้ายคู่ต่อสู้โดยไม่ได้เล่นลูกบอล หรือลูกบอลไม่อยู่ในระยะของการเล่น หรือใช้กำลังรุนแรงเกินกว่าเหตุ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่คู่ต่อสู้ ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึง การกระทำผิดต่อเจ้าหน้าที่ทีมฝ่ายตรงข้าม นักกีฬาฟุตบอลสำรอง และผู้ตัดสิน ถูกพักการแข่งขัน 2 นัด ปรับเงิน 20,000 บาท