04 Feb 2021
คุยกับ “เอกนิษฐ์” กับฤดูกาลอันแสนท้าทายของเขาและสิงห์ เชียงรายฯ

นี่คือหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ภาวนาให้เขาหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามช่วยทีมลุยภารกิจป้องกันแชมป์ไทยลีกให้เร็วที่สุด แม้ว่าระยะเวลาการแข่งขันจะถูกยืดออกไปเพราะพิษการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ฤดูกาลที่แล้วดาวเตะจากกว่างโซ้งมหาภัยเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงจนสามารถคว้าตำแหน่งดาวซัลโวสัญชาติไทย ด้วยผลงาน 10 ประตูในลีก และพาทีมบ้านเกิดก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ไทยลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร จนได้รับการจับตามองว่ามีโอกาสก้าวไปค้าแข้งในลีกต่างแดน
ทว่าในปีที่ผ่านมาเขาถูกอาการบาดเจ็บรบกวนจนทำให้ร้างสนามไปนานถึง 9 เดือนเต็ม ๆ ก่อนกลับมาเรียกความฟิตในช่วงที่ศึกโตโยต้า ไทยลีก พักเบรกพอดี ที่สำคัญช่วงเวลาดังกล่าวประจวบเหมาะกับการกลับมาแข่งขันกันต่อของทัวร์นาเมนต์เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่ประเทศกาตาร์ ทำให้เขามีเกมให้ลงสนามเรียกความมั่นใจก่อนลีกสูงสุดของเมืองไทยจะกลับมาฟาดแข้งอีกครั้ง
วันนี้ เอกนิษฐ์ ปัญญา เพลเมคเกอร์จากสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กลับมาแล้ว พร้อมกับโปรแกรมโตโยต้า ไทยลีก 2020 ที่จะกลับมาฟาดแข้งกันกันต่อในช่วงสองเดือนนับจากนี้
Thai League มีโอกาสพูดคุยกับ เอกนิษฐ์ ปัญญา กองกลางตัวรุกดีกรีทีมชาติไทย จากสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด หนึ่งในนักเตะที่แฟนบอลรอคอย หลังจากที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บหนักกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง
เป้าหมายของเขาในโปรแกรมไทยลีกที่เหลือนับจากนี้เป็นอย่างไร? สิงห์ เชียงรายฯ มีดีพอที่จะป้องกันแชมป์หรือไม่? ประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตบนเวทีเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก เป็นอย่างไร? ร่วมพูดคุยไปพร้อม ๆ กัน
Thai League : เป้าหมายของสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด หลังผ่านครึ่งทางของซีซั่นนี้ แตกต่างจากตอนเริ่มฤดูกาลหรือไม่?
สำหรับผมวางเป้าหมายไว้เมื่อต้นฤดูกาลนี้ว่าอยากพาทีมรักษาแชมป์ให้ได้ แต่ตอนนี้สถานการณ์ของทีมเริ่มห่างกับทีมนำเกินไป ผมจึงพยายามรักษาอันดับของทีมให้ติดท็อปทรีให้ได้
ส่วนเป้าหมายของทีมแน่นอนว่ายังหวังป้องกันแชมป์ให้ได้อีกปีครับ ทำให้เต็มที่ทุกแมตช์เพื่อสามคะแนนนับจากนี้
Thai League : การได้เข้าไปเล่นในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2020 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยกระดับสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และความมั่นใจของคุณมากน้อยขนาดไหน
ต้องบอกว่าทีมของเราได้ประสบการณ์ล้วน ๆ ครับ แม้ว่าจะตกรอบแรกก็ตาม เช่น สปีดบอล และ การเพรสซิ่ง พอเราลงสนามไปเล่นรู้เลยว่าจังหวะฟุตบอลทีมระดับเอเชียเร็วกว่าไทยลีกมาก ๆ ครับ
Thai League : คุณยิงประตูในเวทีชิงแชมป์สโมสรเอเชียได้ด้วย (ยิงประตูใส่ ปักกิ่ง กั๋วอัน ในเกมที่เสมอกัน 1-1) แต่ว่าในไทยลีกฤดูกาลนี้ คุณยังทำประตูไม่ได้ ตั้งเป้าหมายอย่างไรบ้างหลังไทยลีกเตรียมกลับมาแข่งขันอีกครั้ง
ผมดีใจมากครับ หลังจากหายเจ็บกลับมาแล้วสามารถยิงประตูได้เลย นี่คือประตูแรกของผมในฤดูกาลนี้ด้วย แต่ว่าในไทยลีกผมยังยิงไม่ได้เลยนะ (หัวเราะ)
ตอนนี้ผมตั้งเป้าหมายแรกของตัวเองเลยว่าต้องกลับมายิงประตูแรกในไทยลีกปีนี้ให้ได้ก่อน อยากรักษาฟอร์มการเล่นของตัวเองเพื่อช่วยให้เชียงรายบรรลุเป้าหมายในปีนี้ครับ แม้ว่าจะเป็นปีที่ยากก็ตาม
Thai League : โปรแกรมไทยลีก 2020 ที่เหลือนับจากนี้ถือว่าแน่นพอสมควร เฉลี่ยแล้ว 7 เกมภายใน 1 เดือน สิงห์ เชียงรายฯ เตรียมตัวรับมือกับปัญหานี้อย่างไร
ผมคิดว่าทีมต้องมีการโรเตชั่นแน่นอนครับ เชื่อว่าบรรดาแข้งรุ่นพี่ทุกคนภายในทีมสามารถทดแทนกันได้ ถ้าพูดถึงความเป็นจริงมันก็เป็นเรื่องหนักหนามาก ผมเองก็ไม่เคยเจอโปรแกรมหินแบบนี้ (หัวเราะ) แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากลงไปเล่นให้เต็มที่ครับ
Thai League : เอเมอร์สัน เปเรย์ร่า กุนซือชาวบราซิล วางเป้าหมายอะไรกับทีมไว้บ้างในช่วงโปรแกรมที่เหลืออยู่
เอเมอร์สันพยายามพัฒนาทีมให้ดีขึ้นในทุก ๆ วัน เขามักจะหาวิธีการเล่นใหม่ ๆ เพื่อมาประยุกต์ใช้กับทีม อย่างน้อยก็เพื่อการทำตามเป้าหมายติดอันดับ 1-4 คว้าโควตาไปเล่นในเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ปีถัดไปให้ได้
Thai League : สิงห์ เชียงรายฯ มีการปรับเปลี่ยนนักเตะโควต้าต่างชาติสองตำแหน่ง (เฟลิเป้ อโมริม และ โช จี ฮุน) ในฐานะที่คุณเป็นนักเตะเกมรุกและต้องร่วมงานกับทั้งคู่ พวกเขาเข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมอย่างไรบ้าง
ผมคิดว่าทั้งคู่เป็นนักเตะที่ดีครับ โดยเฉพาะ โช จี ฮุน กองกลางชาวเกาหลีใต้ ที่สามารถคุมเกมกลางสนามได้หมด จากที่ผมเคยสัมผัสทั้งการฝึกซ้อมและสนามจริง แต่ว่าเขาเป็นคนเงียบ ๆ ครับ เรายังไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่
Thai League : อุปสรรคของคุณในช่วงที่ผ่านมา คือ ปัญหาอาการบาดเจ็บ มันส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของคุณมากน้อยแค่ไหน
ผมยอมรับว่าช่วงหลังนี่ร้างสนามไปนานมากครับ เกมที่เปิดบ้านแพ้ การท่าเรือ เอฟซี ได้ลงสนามในฐานะตัวสำรอง 10 นาทีสุดท้าย พอลงไปเล่นรู้สึกว่าจังหวะฟุตบอลเรายังไม่ได้ครับ เพราะผมหยุดไปเกือบปี ผมยังต้องปรับตัวให้เข้ากับทีมอีกเยอะเลยครับ เหมือนกับว่าต้องเรียนรู้ใหม่หมด
Thai League : หลังจากไทยลีกพักเบรกในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อกลับมาแข่งขันอีกครั้ง สิงห์ เชียงรายฯ พลาดท่าสะดุดพ่าย การท่าเรือ เอฟซี 1-2 ในเกมนัดตกค้าง คุณคิดว่าทีมมีอะไรที่ต้องปรับแก้อีกบ้าง
จากมุมมองของผมที่นั่งดูคิดว่าทีมของเรายังขาดเรื่องความเข้าใจในเกมมากกว่าครับ เหมือนกับว่าทีมต้องมาปรับใหม่หมดเลย เพราะทุกทีมก็หยุดพักไปนาน ต้องค่อย ๆ ปรับกันไปครับ
อยากให้แฟนบอลสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นกำลังใจให้ผมและทีมด้วยนะครับ จะพยายามทำให้ดีที่สุด และช่วยทีมบรรลุเป้าหมายให้ได้ครับ