globe

EN

arrow-down

ซูลฟาห์มี อารีฟิน : ผมสัญญากับตัวเองว่าต้องกลับมาไทยลีกอีกครั้งให้ได้

ครั้งแรกกับไทยลีก, หายไปไหนมา, การมาอยู่สุพรรณบุรี ติดตามเรื่องราวของ ซูลฟาห์มี ได้ที่นี่

ชื่อของ ซูลฟาห์มี อารีฟิน อาจเป็นที่คุ้นของแฟนฟุตบอลไทยลีกอยู่บ้างในช่วงไม่กี่ปีก่อน เมื่อแข้งชาวสิงคโปร์คือหนึ่งในนักเตะโควต้าอาเซียนคนแรกๆ กับ ชลบุรี เอฟซี ในฤดูกาล 2018 ทว่าในฤดูกาล 2019 ชื่อเขาก็เงียบหายไป

ฤดูกาล 2020 ซูลฟาห์มี กลับคืนสู่ลีกสูงสุดแห่งวงการฟุตบอลไทยอีกครั้ง ... ประสบการณ์ครั้งแรกกับไทยลีกเป็นอย่างไร เหตุใดถึงหายไป และเบื้องหลังการกลับสู่ไทยลีกอีกครั้ง กับ สุพรรณบุรี เอฟซี

Q : คุณเองถือเป็นหนึ่งในผลผลิตจากอคาเดมีฟุตบอลแห่งชาติของสิงคโปร์ ประสบการณ์ที่นั่นช่วยคุณในการเล่นระดับอาชีพอย่างไรบ้าง

ซุลฟาห์มี : ผมเริ่มเล่นฟุตบอลจริงๆ จังๆ ตอนอายุ 16 ปี กับสโมสรโฮม ยูไนเต็ด รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี เป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่จะย้ายเข้าศูนย์ฝึกฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติสิงคโปร์ ซึ่งทางเทคนิคแล้ว ผมเล่นกับที่นั่นแค่ปีเดียว ตอนอายุ 18 ปี

พวกเราได้รับโอกาสเดินทางไปในที่ต่างๆ เพื่อฝึกซ้อม รวมถึงเข้าแข่งขันรายการต่างๆ ในต่างประเทศ ซึ่งมันช่วยให้พวกเราได้พัฒนาฝีเท้าตัวเองได้ดีเลยทีเดียว

เราได้ลงเล่นในรายการลีกเยาวชนด้วยเช่นกัน ในลีกรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่สิงคโปร์ และศูนย์ฝึกฟุตบอลเยาวชนแห่งชาติ ก็ได้ส่งพวกเราในชุดอายุไม่เกิน 18 ปี ลงเล่น ในขณะที่สโมสรส่วนใหญ่ใช้นักเตะที่โตกว่าพวกเรา และจากจุดนั้นเอง ทำให้พวกเราได้รับประโยชน์ และได้เรียนรู้จากการได้เผชิญหน้ากับแข้งรุ่นพี่ฝีเท้าดีๆ เหล่านั้น

Q : ตอนที่ ชลบุรี เอฟซี ติดต่อมาในปี 2018 เหตุใดคุณถึงตัดสินใจย้ายสู่ โตโยต้า ไทยลีก ในฐานะหนึ่งในนักเตะโควต้าอาเซียนคนแรกๆ เพราะในตอนนั้น ไทยลีกเองก็เพิ่งจะเปิดพื้นที่ให้นักเตะโควต้าอาเซียนเช่นกัน

ซุลฟาห์มี : ก่อนหน้าปี 2018 ผมก็ติดตามไทยลีกอยู่แล้ว ผมใฝ่ฝันว่าอยากเล่นไทยลีก และความใฝ่ฝันนั้นมันก็เป็นจริง

ผมคิดว่าไทยลีกเป็นก้าวแรก และสถานที่ที่ดีของเหล่านักเตะอาเซียนที่จะได้สัมผัส เพราะที่นี่มีการแข่งขันที่สูงกว่าที่อื่นในละแวกนี้ ผมชอบสไตล์การเล่นฟุตบอลของไทย ผมจำได้ว่า ระหว่างการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 ผมเจอโค้ชซิโก้ (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง) ที่ล็อบบี้โรงแรมตอนพวกเขากำลังเช็คเอาท์กลับไทย เขาบอกกับผมว่า "อีกไม่กี่ปีคุณก็ไปเล่นฟุตบอลที่ไหนก็ได้ รวมถึงไปเล่นที่ประเทศไทย"

หลังจากวันนั้น ผมเริ่มจับตาดูวิธีการเล่นของไทยลีกอย่างจริงจัง และเมื่อสโมสรหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยอดเยี่ยมในไทยลีกอย่าง ชลบุรี เอฟซี ติดต่อมา ผมก็ตอบตกลงทันทีแบบไม่ลังเลอะไรเลย

Q : ชีวิตในไทยลีกฤดูกาล 2018 เป็นอย่างไร มีแต่เรื่องดีๆ หรือมีบางสิ่งที่อยากกลับไปเปลี่ยนแปลงบ้างหรือไม่

ซุลฟาห์มี : มันเป็นอะไรที่น่าจดจำจริงๆ ผมมีความสุขและพอใจมากกับสิ่งที่ได้สัมผัสมา ในปีนั้นเป็นปีที่ผู้เล่นในโควต้าอาเซียนต้องทำงานหนักหนาพอสมควร เพื่อที่จะเบียดแย่งโควตาต่างชาติที่ลงเล่นพร้อมกันได้แค่ 4 คนในสนาม แต่สุดท้าย ผมก็เริ่มได้มีส่วนร่วมกับเกม ผมมีแค่เพียงคำว่า "ขอบคุณ" กับ ชลบุรี เอฟซี ที่ให้โอกาส และช่วยให้ผมได้พัฒนาฝีเท้าที่นั่น มันเป็นการเล่นในต่างประเทศครั้งแรกของผมในลีกชั้นนำของอาเซียน ซึ่งผมค่อนข้างที่จะประทับใจมากเลยทีเดียว

Q : เหตุใดในฤดูกาล 2019 คุณถึงตัดสินใจย้ายกลับสิงคโปร์ บ้านเกิด ไปอยู่กับ ฮัวกัง ยูไนเต็ด

ซุลฟาห์มี : ผมเซ็นสัญญากับ ฮัวกัง ยูไนเต็ด ไปแล้ว ในปี 2018 และ 2 สัปดาห์ถัดมาหลังจากที่ผมเซ็นสัญญา ชลบุรี เอฟซี ก็ติดต่อเข้ามาว่าอยากได้ผมไปร่วมทีม ผมเข้าไปปรึกษาหารือกับผู้จัดการทั่วไปของทีมและโค้ช ซึ่งพวกเขาไม่ขัดข้องอะไร พร้อมทั้งสนับสนุน และอนุญาตให้ผมย้ายเล่นให้กับชลบุรีแบบยืมตัวแค่นั้น แล้วค่อยกลับมาที่ ฮัวกัง ยูไนเต็ด เป็นครั้งหนึ่งหลังการค้าแข้งในต่างแดนของผมที่สิ้นสุดลง ซึ่งพวกเขา (ฮัวกัง) ก็ไม่ได้หาผู้เล่นคนไหนมาทดแทนผม

ผมอยากขอบคุณที่พวกเขาให้โอกาสผมได้ออกไปสัมผัสการค้าแข้งในต่างแดน โดยไม่อาจรู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร หลังจากสิ้นสุดฤดูกาลนั้นกับ ชลบุรี เอฟซี ช่วงนั้นผมก็ได้รับอนุญาตให้พิจารณาข้อเสนอทีมในต่างประเทศบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมมากนัก ผมรู้สึกว่าผมเป็นหนี้ ฮัวกัง ยูไนเต็ด และสิ่งที่ผมควรทำคือ กลับมาลงเล่นให้กับฮัวกัง เพราะผมได้พูดกับพวกเขาไว้ว่าจะกลับมา และแล้วก็มีข้อเสนอมากมายเข้ามาหาผม แต่ผมก็ปฏิเสธสโมสรจากไทยไปว่า ผมต้องการที่จะมุ่งมั่น และไล่ล่าเป้าหมายที่วางไว้กับ ฮัวกัง ยูไนเต็ด ให้สำเร็จเสียก่อน

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเลือกที่จะกลับมาเล่นที่ไทยหลังจากปี 2019

Q : แล้วเหตุใด คุณถึงตัดสินใจย้ายกลับสู่ไทยลีกอีกครั้งในฤดูกาล 2020 กับ สุพรรณบุรี เอฟซี

ซุลฟาห์มี : ผมบอกกับตัวเองว่าหลังจาก 1 ปี ในการกลับมาเล่นที่สิงคโปร์จบลง ผมอยากจะกลับไปเล่นที่ไทยอีกครั้ง ผมเชื่อว่าไทยลีกคือลีกที่ดีที่ต้องมา เมื่อเอเย่นต์บอกกับผมว่า สุพรรณบุรี เอฟซี สนใจในตัวผม ผมตกใจ และไม่อยากจะเชื่อเขาในตอนแรก ผมเป็นแฟนคลับสุพรณบุรีมาตั้งแต่ปี 2015 ผมมักถามบางคนที่กำลังจะเดินทางไปกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เขาซื้อเสื้อสุพรรณบุรีมาให้ผม

เมื่อผมทราบข่าว ผมตอบตกลงเซ็นสัญญาทันทีกับสโมสรสุพรรณบุรี ตอนนี้ผมมีความสุข และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สวมเสื้อลงแข่งให้สุพรรณบุรี ผมอยากจะขอบคุณประธานสโมสร ผู้จัดการ และโค้ช สำหรับโอกาสที่ดีในครั้งนี้

Q : คุณเคยเล่นฟุตบอลระดับอาชีพมาแล้วทั้งในสิงคโปร์, ไทย และ มาเลเซีย (กับ ไลออนส์ XII) 3 ลีกนี้มีความแตกต่างอย่างไรบ้าง

ซุลฟาห์มี : สิงคโปร์และมาเลเซียไม่มีความแตกต่างอะไรมากนักในด้านคุณภาพ นอกเหนือจากการลงทุนของทีม และระดับของผู้เล่นต่างชาติ ส่วนไทยลีกจะเป็นอีกระดับหนึ่ง นั่นเป็นเหตุผลที่คุณเห็นว่า มีผู้เล่นหลายรายต้องการที่จะมาค้าแข้งในประเทศไทย

Q : พูดถึงชีวิตทั้งในและนอกสนาม การปรับตัวสู่การใช้ชีวิตในประเทศใหม่อย่าง ประเทศไทย สำหรับคุณยากง่ายขนาดไหน

ซุลฟาห์มี : ปัญหานอกสนาม 2 อย่างของผม คือเรื่องอาหาร และอีกอย่าง ผมอยู่ไกลจากครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อ, แม่, ป้า และภรรยาของผม เราแต่งงานกันได้ 3 เดือน ก่อนแยกกันอยู่ในปี 2018 แต่เธอก็ยังให้การสนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ผม ก็ต้องขอบคุณเธอด้วย

ในส่วนของอาหาร เจ้าหน้าที่ทีมของสุพรรณบุรีดูแลผมอย่างดีเมื่ออยู่นอกสนาม ในสนามก็จะมีเพียงการสื่อสารที่เป็นอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ผมก็ตั้งใจที่จะเรียนรู้กับภาษาไทย การได้คลุกคลีกับผู้เล่นคนไทย ก็สามารถช่วยผมได้เยอะเลยทีเดียว โค้ช เจ้าหน้าที่ และเพื่อนนักเตะ ทุกคนต่างให้การต้อนรับ และการปฏิบัติที่ดีต่อผม เสมือนผมเป็นหนึ่งในครอบครัวของพวกเขา นี่คือวิธีการปรับตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว พวกเราเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่เลยครับ

Q : จากการที่มีนักเตะอาเซียนหลายรายในไทยลีก ในความคิดของคุณ โควต้าอาเซียนของไทยลีก ช่วยยกระดับวงการฟุตบอลอาเซียนอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สิงคโปร์ ซึ่งมีนักเตะหลายรายค้าแข้งที่นี่ตอนนี้

ซุลฟาห์มี : ด้วยคุณภาพของนักเตะอาเซียนที่เล่นในไทยลีกแล้ว มันจะช่วยยกระดับฝีเท้าของตัวนักเตะโควต้าอาเซียนเอง และระดับของไทยลีกไปในตัว เพราะเมื่อมีผู้เล่นออกจากสิงคโปร์ไปเล่นในต่างแดนเมื่อใด ก็จะมีพื้นที่ให้ผู้เล่นดาวรุ่งหน้าใหม่เข้ามาแสดงผลงานในประเทศ ซึ่งผมว่า ในหลายๆ ประเทศก็เป็นแบบนี้เหมือนกันนะ

Q : คำถามสุดท้ายแล้ว อะไรคือเป้าหมายของคุณในไทยลีก ฤดูกาล 2020 กับ สุพรรณบุรี รวมถึงเป้าหมายในอนาคตต่อจากนี้ด้วย

ซุลฟาห์มี : ผมแค่อยากทำงานให้หนัก และทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อสโมสร นั่นเป็นทางเดียวที่ผมสามารถตอบแทนความไว้วางใจที่พวกเขาเลือกที่เซ็นสัญญากับผม ผมเชื่อว่า นี่คือที่ๆ จะทำให้ผมยกระดับฝีเท้าของผม ในฐานะนักฟุตบอลต่อไป และผมมีความสุขมากที่อยู่ที่นี่ ผมได้อยู่ในที่ๆ ดี สโมสรใหญ่ที่ผมใฝ่ฝัน ผมไม่ขออะไรไปมากกว่านี้แล้ว เพียงแค่ช่วยพวกเขาให้ทำผลงานให้อยู่อันดับต้นๆ ของลีก ตามที่หวังไว้ได้ก็พอ

Latest

31 Oct 2023

ศิลปิน-ลูกหนัง : นาราภัทร งดงาม (มหาสารคาม เอสบีที)

thai league

None
Read morearrow-right

20 Oct 2023

Every 5 Games : รวมมิตรสถานการณ์หลังผ่าน 5 เกมแรกศึกปุ๋ยรุ่งอรุณ ลีก

thai league

None
Read morearrow-right

13 Oct 2023

จากบางระกำถึงทุ่งรังสิต : ศรัญยู มังสา (มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ)

thai league

None
Read morearrow-right