ธีรศักดิ์ เผยพิมาย : หัวหอกดาวรุ่งอนาคตไกล ที่พร้อมก้าวเป็นความหวังให้ชาติเหมือน ‘ธีรศิลป์’

จากการประกาศรายชื่อ 23 นักฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดลุยศึกฟุตบอลเอเชียรอบคัดเลือกที่มองโกเลีย หลายคนคงเห็นชื่อ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กองหน้าดาวรุ่งวัย 19 ปี แล้วอาจสงสัยอยู่บ้างว่า เจ้าหนุ่มคนนี้เป็นใครมากจากไหน ถึงชนะใจ ‘โค้ชโย่ง’ วรวุธ ศรีมะฆะ จนเลือกติดทีมไป และถูกส่งลงสนามตลอด 2 เกมแรก

แต่กับวงการฟุตบอลเมืองไทยแล้ว เจ้าหนุ่มรายนี้คือวอนเดอร์คิดแห่งวงการฟุตบอลไทย ที่หลายคนมองว่าเขาอาจเป็น ธีรศิลป์ แดงดา คนใหม่ และเป็นกองหน้าตัวหลักให้ พราม แบงค็อก สโมสรฟุตบอลในมังกรฟ้า ลีก โซนกทม. และปริมณฑล ตั้งแต่อายุยังไม่ 20 ปี

แล้ว ‘เจ้าตัน’ มีความเป็นมายังไง แล้วเขาอยากมีเส้นทางอนาคตเป็นอย่างไร ไทยลีก จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักพร้อมๆกัน

จุดเริ่มต้นกับสุรศักดิ์มนตรี

“ผมชื่อ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ครับ ผมชอบเล่นฟุตบอลตั้งแต่ตอนเรียนประถมครับ ตามประสาที่เป็นเด็กตอนนั้น ก็มาเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ ตอนพักเที่ยงครับ”

นี่คือประโยคแรกที่ ‘เจ้าต้น’ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ได้ทักทายกับเรา หากดูเผินๆ เขาก็เป็นเหมือนเด็กหนุ่มวัย 19 ปีทั่วๆ ไป ที่มีความขี้อายอยู่ แต่จริงๆ เขาเป็นหนึ่งในกองหน้าดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก

โดยจุดเริ่มต้นของเขา คือการมาอยู่ที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี หนึ่งในมหาอำนาจของวงการลูกหนังขาสั้น ซึ่งเส้นทางของ ‘เจ้าต้น’ ก็เริ่มจากที่นี่

“ตอนนั้น ผมรู้จักกับแม่ของเพื่อนคนหนึ่งครับ เขาลองชวนให้เรามาคัดตัวเป็นนักกีฬาที่นี่ แต่ตอนนั้นผมมาคัดเป็นนักกีฬาฟุตซอล แล้วมาคัดตัวในตำแหน่งกองหลังด้วยครับ” หัวหอกจาก พราม แบงค็อก เล่าให้ฟัง

แม้จะเริ่มต้นการเล่นในตำแหน่งกองหลัง แต่ด้วยทักษะต่างๆ รวมถึงสภาพร่างกายของเจ้าตัว ทำให้ภายหลัง เจ้าตัวถูกเปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่งกองหน้า และคนที่เห็นแววของเขา ก็เป็น อาจารย์สกล เกลี้ยงประเสริฐ ผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลของโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี หนึ่งในโค้ชผู้ค่ำหวอดในวงการฟุตบอลนักเรียน

“ตอนนั้น อาจารย์สกล (โค้ชฟุตบอลโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี) เขาลองเรียกผมมาเล่นฟุตบอลใหญ่ครับ ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังเล่นเป็นกองหลังอยู่ครับ” ดาวยิงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี พูดถึงโค้ชผู้ปลุกปั้นเขาขึ้นมา

“แต่ตัวอาจารย์สกลเห็นแววในตัวผม เลยลองให้ผมมาเล่นเป็นกองหน้า ซึ่งผมเองก็ต้องปรับตัวใหม่เหมือนกันครับ อาจารย์ก็คอยสอน ติคอยวเข้มผมมาตลอดครับ ผมขาดตกบกพร่องตกไหน แกก็คอยเสริมจุดแข็งให้เราครับ”

สู่เส้นทางอาชีพ

กับการเล่นให้โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ภายใต้การดูแลของอาจารย์สกล ‘เจ้าต้น’ ก็แสดงความเป็นยอดกองหน้าออกมา โดยเฉพาะในการแข่งขันฟุตบอลแชมป์กีฬา 7 สี ที่เขาเป็นดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ปี 2019 จากการยิงไป 13 ประตู แม้ ‘บลู อาร์มี่’ จบเส้นทางการแข่งขันตั้งแต่รอบแรก

ผลงานดังกล่าวของธีรศักดิ์ ทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองของหลายสโมสร ก่อนที่จะเป็น พราม แบงค็อก สโมสรในมังกรฟ้า ลีก (ไทยลีก 3) ที่ได้ลายเซ็นของหัวหอกวัยรุ่นรายนี้

“ผมดีใจครับ แล้วก็ตื่นเต้นด้วย” ดาวยิงวัย 19 ปี เผยความรู้สึกตอนได้เล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรก “แต่มันก็มีความต่างกัน เรื่องความแข็งแกร่งของนักกีฬา รวมถึงระบบการเล่นของฟุตบอลอาชีพจริงๆ ด้วย”

และปีแรกในเส้นทางฟุตบอลอาชีพกับ ‘สายฟ้านกอินทรี’ ธีรศักดิ์ ก็กลายเป็นตัวหลักในเกมรุกให้ทีมทันที รวมถึงยิงไป 9 ประตู ในซีซั่นที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่พอใจกับผลงานของตัวเองนัก “ผมยังไม่ค่อยพอใจครับ ตัวผมคาดหวังไว้มากกว่านี้สักหน่อย ปีนี้ผมก็หวังว่าจะยิงให้ได้มากกว่านี้สักหน่อย”

ถูกเปรียบเทียบกับไอดอล

แน่นอนว่าหากพูดถึงกองหน้าอันดับ 1 ของไทย ทุกคนก็มองว่า ‘มุ้ย’ ธีรศิลป์ แดงดา ยังคงเป็นเจ้าของตำแหน่งดังกล่าว แม้จะมีอายุ 33 ปีแล้ว

ซึ่งตัวของ ธีรศักดิ์ เอง ก็เผยว่าเขามีกองหน้าจากบีจี ปทุมฯ เป็นหนึ่งในต้นแบบ จากการพูดคุยกับไทยลีก โดยบอกว่า “ผมชอบพี่มุ้ย ผมเคยดูตั้งแต่ที่พี่เขาเล่นในสเปนกับอัลเมเรีย จนมาถึงตอนเล่นที่ญี่ปุ่นครับ”

“ส่วนนักเตะต่างชาติที่ผมชอบก็เป็นเธียร์รี่ อองรี (อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส และอาร์เซนอล) ครับ แต่ผมชอบเชลซี และนักเตะที่ผมชอบในทีมก็คือ โรเมลู ลูกากู”

ขณะเดียวกันเอง ตัวของ ‘เจ้าต้น’ ก็ถูกนำมาเปรียบเทียบกับดาวซัลโวตลอดกาลอันดับ 4 ของทีมชาติไทย จากทั้ง ‘โค้ชจุ่น’ ดร.จตุพร ประมลบาล ประธานสโมสร พราม แบงค็อก รวมถึงจากสื่อหลายๆ ที่ แต่เขาเองก็พูดถึงเรื่องนี้ว่า “กับการที่ถูกคนมองว่าผมมีความคล้ายธีรศิลป์ ผมก็ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร ผมชอบด้วยซ้ำไป ที่มีคนมองเราว่ามีความคล้ายกับหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในไทยครับ”

และเมื่อพูดถึงหนึ่งในสิ่งที่ ธีรศิลป์ ประสบความสำเร็จ คือการได้ออกไปค้าแข้งกับต่างประเทศ ทั้ง อัลเมเรีย ทีมในสเปน, ซานเฟรชเช่ ฮิโรชิมา รวมถึง ชิมิสุ เอส-พัลส์ สองสโมสรดังในเจลีก ของญี่ปุ่น และหัวหอกวอนเดอร์คิดของไทยรายนี้ ก็หวังจะตามรอยรุ่นพี่บ้าง ซึ่งเขาบอกกับเราสั้นๆ ว่า “ผมอยากไปเล่นที่ต่างประเทศครับ ปีที่แล้วเองก็มีทีมจากต่างประเทศที่ติดต่อผมมาด้วย”

“ในอนาคตผมเองก็อยากไปต่างประเทศเหมือนกัน ผมอยากไปเล่นที่อังกฤษ ถ้าเลือกได้ก็คงเป็นเชลซีครับ (หัวเราะ)”

ประสบการณ์จากทีมชาติ

ก่อนหน้านี้ ธีรศักดิ์ เอง ไม่เคยติดทีมชาติไทยมาก่อน แต่เจ้าตัวก็สามารถสร้างความประทับใจให้ ‘โค้ชโย่ง’ วรวุธ ศรีมะฆะ จนเป็น 1 ใน 23 ที่ได้ติดทีมชาติไทย U-23 ไปเล่นฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ที่ประเทศมองโกเลียได้

ซึ่งเขาก็พูดถึงการเรียกไปเก็บตัวในแคมป์ครั้งแรก ก่อนจะมีชื่อไปมองโกเลียว่า “ก็รู้สึกดีครับ ผมได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้เจอกับโค้ชโย่งด้วย ผมคาดหวังว่าจะได้ติดทีมครับ แล้วผมก็ดีใจมากๆ พอได้ติดทีมจริงๆ เพราะมันเป็นการติดทีมชาติครั้งแรกของผม แล้วผมก็บอกพ่อแม่ก่อนเลยครับ (ยิ้ม)”

“โค้ชโย่งบอกผมด้วยว่า ถ้าได้โอกาส ก็ให้เราทำให้เต็มที่ที่สุดครับ เขาก็บอกผมว่าเขาพร้อมให้โอกาสผมแน่นอนครับ แต่ผมไม่ได้กดดันกับการติดทีมชาติเลยครับ แล้วแน่นอนว่าเป้าหมายของผมคือการพาทีมชาติไทยเป็นแชมป์กลุ่ม และเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายครับ”

สุดท้ายแล้ว ‘เจ้าต้น’ ก็ได้ฝากถึงแฟนๆ ของพราม แบงค็อก ในการสู้ศึกไทยลีก 3 รวมถึงแฟนบอลของทัพช้างศึก ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ว่า “ก็อย่างที่บอกไป เป้าหมายของผมคือการพาทีมชาติไทยเป็นแชมป์กลุ่มในรอบนี้ รวมถึงเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายครับ”

“ส่วนกับพราม แบงค็อก ปีนี้ ผมก็หวังว่าจะทำให้ดีกว่าปีที่แล้วครับ ก็อยากให้แฟนบอลเชียร์ และเป็นกำลังใจให้เรา เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแน่นอนครับ ขอบคุณครับ”