19 Jul 2019
ผลการประชุมคณะพิจารณาวินัยมารยาท ครั้งที่ 41/2562

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 เวลา 09.00 น. คณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทฯ ครั้งที่ 41/2562 ณ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ศูนย์กีฬาหัวหมาก กรุงเทพมหานครฯ โดยมี พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เป็นประธานในที่ประชุม มีเรื่องพิจารณา ดังนี้
1.การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการโตโยต้า ไทยลีก (ไทยลีก 1)
คู่ระหว่างสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล พบ สโมสรตราด เอฟซี
วันที่ 6 กรกฎาคม 2562
- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 61 ผู้รักษาประตูหมายเลข 27 นายธีรัตม์ นาคชำนาญ สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล ได้รับบอลกำลังจะโยนบอลให้ผู้เล่น แต่ถูกผู้เล่นหมายเลข 40 สโมสรตราด เอฟซี บังไว้ จึงได้กางศอกกระแทกใบหน้า โดยผู้ตัดสิน นายกชภูมิ มีศรีเดชา ได้ให้ใบแดงไล่ออกจากสนามแข่งขัน และระบุรายงานว่าเป็นใบแดงประเภทกระทำผิดกติกาอย่างร้ายแรง
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษผู้รักษาประตูหมายเลข 27 นายธีรัตม์ นาคชำนาญ สโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับข้อ 1.12 (1) ทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 2 นัด ปรับเงิน 20,000 บาท
2.การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการโตโยต้า ไทยลีก (ไทยลีก 1)
คู่ระหว่างสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี พบ สโมสรสุโขทัย เอฟซี
วันที่ 14 กรกฎาคม 2562
- เหตุการณ์
หลังจบการแข่งขัน ได้มีกองเชียร์สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี รุมล้อมหน้าห้องผู้ตัดสิน เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในจังหวะนาทีที่ 90+4 ของการแข่งขันสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ได้ลูกเตะมุม และได้โยนบอลมาที่หน้าประตูของสโมสรสุโขทัย เอฟซี ผู้เล่นสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ฟ้องแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษแล้วเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน จึงได้มาดักรออยู่ทางออกสนามบริเวณอัฒจันทร์หลัก กับจุดจอดรถของฝ่ายจัดการแข่งขัน แต่ไม่มีเหตุการณ์บานปลาย
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษกองเชียร์สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.7 ขัดขวางรุมล้อมหรือคุกคาม เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันในสถานที่จัดการแข่งขัน จนอาจจะเป็นเหตุให้เกิดความไม่ปลอดภัย ปรับเงิน 60,000 บาท
3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2)
คู่ระหว่างสโมสรลำปาง เอฟซี พบ สโมสรไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร เอฟซี
วันที่ 6 กรกฎาคม 2562
- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 36 สโมสรลำปาง เอฟซี ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 เมื่อเตะเข้ามาภายในเขตโทษ ได้มีผู้เล่นหมายเลข 18 นายกีรติกรณ์ นิลมาศ สโมสรลำปาง เอฟซี ใช้ท่อนแขนเหวี่ยงไปถูกที่ใบหน้าผู้เล่นหมายเลข 17 นายอภิวิชฐ์ ภู่เล็ก สโมสรไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร เอฟซี และผู้เล่นหมายเลข 17 นายอภิวิชฐ์ ภู่เล็ก สโมสรไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร เอฟซี ได้ชกเข้าไปที่ท้ายทอยผู้เล่นหมายเลข 18 นายกีรติกรณ์ นิลมาศ สโมสรลำปาง เอฟซี และผู้เล่นหมายเลข 18 นายกีรติกรณ์ นิลมาศ สโมสรลำปาง เอฟซี ได้ชกกลับคืน
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 17 นายอภิวิชฐ์ ภู่เล็ก สโมสรไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับข้อ 1.12 (1) ทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 2 นัด ปรับเงิน 13,333 บาท
ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 18 นายกีรติกรณ์ นิลมาศ สโมสรลำปาง เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับข้อ 1.12 (1) ทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 2 นัด ปรับเงิน 13,333 บาท
4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก 2)
คู่ระหว่างสโมสร อาร์มี่ ยูไนเต็ด พบ สโมสรไทยฮอนด้า เอฟซี
วันที่ 14 กรกฎาคม 2562
- เหตุการณ์
หลังจบการแข่งขัน ได้มีกลุ่มกองเชียร์ของสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด ได้มายืนอยู่บริเวณประตูทางออกกลางของอัฒจันทร์หลัก โดยแสดงความไม่พอใจผู้เล่นหมายเลข 26 นายมีเดช สรายุทธพิชัย สโมสรไทยฮอนด้า เอฟซี ที่แสดงอาการเหมือนให้ของลับ เพื่อจะให้ออกมาขอโทษ ทางด้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้พยายามชี้แจงต่อรองกับตัวแทนของกลุ่มกองเชียร์สโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด เพื่อให้เหตุการณ์เป็นไปด้วยดี โดยทางผู้ควบคุมการแข่งขันได้แนะนำไม่ให้ผู้เล่นออกมาเพราะจะมีปัญหาอาจเป็นเหตุให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่นักฟุตบอลได้ โดยให้ผู้เล่นดังกล่าวยืนชี้แจงที่ประตูทางออก มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลกันอย่างใกล้ชิด และกล่าวขอโทษว่าไม่ได้ให้ของลับแต่อย่างใด กองเชียร์สโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด พอใจและเดินทางกลับ ไม่มีเหตุการณ์บานปลาย
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษกองเชียร์สโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.7 ขัดขวางรุมล้อมหรือคุกคาม เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันในสถานที่จัดการแข่งขัน จนอาจจะเป็นเหตุให้เกิดความไม่ปลอดภัย ปรับเงิน 20,000 บาท
5. การแข่งขันฟุตบอลรายการออมสิน ลีก โปร (ไทยลีก 3)
คู่ระหว่างสโมสรมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ พบ สโมสรราชประชา
วันที่ 7 กรกฎาคม 2562
- เหตุการณ์
เหตุการณ์ที่ 1 ผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. JULIO CASAR MOREIRA RIBEIRO ทีมมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ และผู้เล่นหมายเลข 4 นายธนากร สายปัญญา ทีมราชประชา มีการปะทะกันโดยการชักศอก ผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. JULIO CASAR MOREIRA RIBEIRO ทีมมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ได้รับการคาดโทษใบเหลืองจากผู้ตัดสินแล้ว แต่ผู้เล่นหมายเลข 4 นายธนากร สายปัญญา ทีมราชประชา ยังไม่ได้รับการคาดโทษจากผู้ตัดสิน จากนั้นปรากฏในคลิปเหตุการณ์ว่าผู้เล่นหมายเลข 27 นายสัญหณัฐ โอภาวสุ ทีมราชประชา ใช้มือผลักผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. JULIO CASAR MOREIRA RIBEIRO ทีมมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ จนล้มลงไปที่พื้น แต่ผู้ตัดสินไม่ได้คาดโทษ ผู้เล่นหมายเลข 27 นายสัญหณัฐ โอภาวสุ ทีมราชประชา
เหตุการณ์ที่ 2 ผู้เล่นหมายเลข 11 นายปิยพงษ์ หอมจร มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ได้ใช้ศีรษะกระแทกไปที่ใบหน้าบริเวณคางของผู้เล่นหมายเลข 24 นายศราวิน ภักดีการ ทีมราชประชา แต่ผู้ตัดสินไม่ได้คาดโทษ จากนั้นผู้เล่นหมายเลข 24 นายศราวิน ภักดีการ ทีมราชประชา ใช้มือตบเข้าไปที่ใบหน้าของผู้เล่นหมายเลข 11 นายปิยพงษ์ หอมจร ทีมมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ จนล้มลงไปที่พื้น จึงได้รับการคาดโทษใบเหลืองจากผู้ตัดสิน
- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 4 นายธนากร สายปัญญา สโมสรราชประชา มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับข้อ 1.12 (1) ทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 1 นัด และปรับเงิน 6,666 บาท
2) ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 27 นายสัญหณัฐ โอภาวสุ สโมสรราชประชา มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับข้อ 1.12 (1) ทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 1 นัด และปรับเงิน 6,666 บาท
3) ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 24 นายศราวิน ภักดีการ สโมสรราชประชา มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับข้อ 1.12 (1) ทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 2 นัด และปรับเงิน 6,666 บาท
4) ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 11 นายปิยพงษ์ หอมจร ทีมมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับข้อ 1.12 (1) ทำร้ายร่างกายไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไป 2 นัด และปรับเงิน 6,666 บาท
6. การแข่งขันฟุตบอลรายการออมสิน ลีก โปร (ไทยลีก 3)
คู่ระหว่างสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด พบ สโมสรบีทียู ส.บุญมีฤทธิ์ ยูไนเต็ด
วันที่ 13 กรกฎาคม 2562
- เหตุการณ์
เหตุการณ์ที่ 1 ในช่วงพักครึ่งเวลาแรก ในขณะที่ผู้ตัดสินและผู้ช่วยได้เดินออกจากสนามเพื่อมายังห้องพัก นายวรานนท์ เกลื่อนสิน ประธานสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ได้เดินเข้ามาหาผู้ตัดสินและได้แสดงพฤติกรรม ก้าวร้าว พูดจาข่มขู่กับผู้ตัดสินเพราะไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในการแข่งขันครึ่งเวลาแรก และเมื่อผู้ตัดสินและผู้ช่วยได้เข้ามายังห้องพักแล้ว นายวรานนท์ ก็ยังตามมายืนด่าและพูดจาข่มขู่อยู่หน้าห้องพักแต่ไม่ได้เข้ามาในห้อง เมื่อจะถึงเวลาทำการแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง นายสัญญา สถิตดำรงกุล ผู้ตัดสิน ได้มาแจ้งกับ MC ว่าไม่พร้อมลงปฏิบัติหน้าที่ในครึ่งเวลาหลัง เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย MC จึงได้รายงานสถานการณ์ให้ฝ่ายจัดการแข่งขันทราบ และการแข่งขันได้ดำเนินต่อไปจนจบการแข่งขัน
เหตุการณ์ที่ 2 สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่ 1 MC ได้เดินไปยังซุ้มที่นั่งทีม BTU ส.บุญมีฤทธิ์ ยูไนเต็ดเพื่อแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์ของผู้ตัดสิน หลังจากนั้น MC ได้เดินไปยัง ซุ้มที่นั่งทีมแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด เพื่อแจ้งให้ทีมระนองได้ทราบเช่นเดียวกันด้วยคำพูดที่สุภาพว่า ขณะนี้ผู้ตัดสินได้แจ้งกับ MC ว่ายังไม่พร้อมทำหน้าที่ในครึ่งเวลาหลัง เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย และ MC ได้รายงานให้ ฝ่ายจัดการแข่งขันทราบแล้ว รอสักครู่นะครับ ทำให้นายวรานนท์ เกลื่อนสิน ซึ่งนั่งอยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่พอใจ ได้เดินเข้ามาต่อว่าและข่มขู่ MC ด้วยคำพูดที่หยาบคาย ดูหมิ่น หลังจากนั้นนายวรานนท์ ได้เดินเข้ามาผลัก MC 1 ครั้ง จน MC เซไปด้านหลังเล็กน้อยแต่ไม่ได้ล้มลง และ MC ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งยืนอยู่บริเวณดังกล่าว ได้เข้ามาห้ามปราม และเหตุการณ์ก็ได้ยุติลง หลังจากเหตุการณ์ที่ 2 สิ้นสุดลง เพื่อความปลอดภัย MC ได้กลับเข้าไปในห้องพักผู้ตัดสินและในขณะกำลังเดินไป ได้สังเกตเห็นนายวรานนท์เดินขึ้นมาด้านบนอัฒจันทร์เพื่อขอไมโครโฟนจากโฆษกสนาม และจากการตรวจสอบดูคลิปวิดีโอย้อนหลังที่ถ่ายทอดสดทาง APP Mycujoo นายวรานนท์ได้พูดผ่านไมโครโฟนและลำโพงของสนาม ซึ่งปรากฎตามคลิปวิดีโอ
- ผลพิจารณาโทษ
1)กรณีเดินเข้ามาต่อว่าผู้ตัดสินด้วยถ้อยคำหยาบคายขณะผู้ตัดสินเดินเข้าห้องพัก และบริเวณหน้าห้องพัก ลงโทษนายวรานนท์ เกลื่อนสิน ประธานสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.6 ห้ามลงทำหน้าที่ครั้งต่อไป 2 นัด ปรับเป็นเงิน 13,333 บาท
2)กรณีผู้ควบคุมการแข่งขันเข้าไปแจ้งกับสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด กรณีที่ผู้ตัดสินยังไม่พร้อมหน้าที่เนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัย จากนั้นนายวรานนท์ เกลื่อนสิน ได้ต่อว่าผู้ควบคุมการแข่งขันและใช้มือผลักอกผู้ควบคุมการแข่งขันจนเซไปด้านหลัง เป็นการแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน นายวรานนท์ เกลื่อนสิน ประธานสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.5 ห้ามลงทำหน้าที่ครั้งต่อไป 2 นัด ปรับเป็นเงิน 3,333 บาท
3)กรณีนายวรานนท์ เกลื่อนสิน ใช้เครื่องขยายเสียงในสถานที่จัดการแข่งขันต่อว่าการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน อันอาจนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรง หรือทำให้เสียภาพลักษณ์ของสมาคมหรือฝ่ายจัดการแข่งขัน ลงโทษนายวรานนท์ เกลื่อนสิน ประธานสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.11 ปรับเงิน 6,666 บาท
รวมพิจารณาโทษนายวรานนท์ เกลื่อนสิน ประธานสโมสรแกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ห้ามลงทำหน้าที่ครั้งต่อไป 4 นัด และปรับเป็นเงิน 23,332 บาท
7. การแข่งขันฟุตบอลรายการออมสิน ลีก (ไทยลีก 4)
คู่ระหว่างสโมสรสิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี พบ สโมสรนครแม่สอด ยูไนเต็ด
วันที่ 14 กรกฎาคม 2562
- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 76 ผู้เล่นหมายเลข 89 นายณัฐพงศ์ ยิ้มประดิษฐ์ ทีมนครแม่สอดฯ ได้กระทำฟาล์วผู้เล่นหมายเลข 12 นายนพเกล้า ดำรงค์ไทย ทีมสิงห์บุรีฯ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินจึงเป่าเป็นลูกจุดโทษให้ทีมสิงห์บุรีฯ แล้วผู้เล่นหมายเลข 89 นายณัฐพงศ์ ยิ้มประดิษฐ์ ทีมนครแม่สอดฯ ไม่พอใจคำตัดสิน จึงได้วิ่งเข้ามาหาผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 โดยใช้วาจาดูถูกเหยียดหยาม และใช้หน้าอกกระแทกผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 2 ครั้ง และยังไม่พอใช้ไหล่กระแทกซ้ำครั้งที่ 3 จนผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ล้มลงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ผู้ตัดสินจึงมีการลงโทษ ผู้เล่นหมายเลข 89 นายณัฐพงศ์ ยิ้มประดิษฐ์ เป็นใบแดง
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษ ผู้เล่นหมายเลข 89 นายณัฐพงศ์ ยิ้มประดิษฐ์ สโมสรนครแม่สอด ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับข้อ 1.12 (1) ห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไปและห้ามเข้าสนาม 1 นัด และปรับเงิน 20,000 บาท เนื่องจากเป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ให้เพิ่มโทษจากเดิมเป็น 2 เท่า จึงลงโทษห้ามลงแข่งขันครั้งต่อไปและห้ามเข้าสนาม 2 นัด ปรับเงิน 40,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 4 จึงปรับเป็นเงิน 13,333 บาท