globe

EN

arrow-down

พีระพงษ์ เรือนนินทร์ : จากกองหลังสู่อนาคตผู้รักษาประตูทีมชาติไทย

มาทำความรู้จักกับนายด่านป้ายแดงของเอสซีจี เมืองทอง อย่าง พีระพงษ์ เรือนนินทร์ กันได้ที่นี่

ชีวิตของนักฟุตบอลล้วนมีเส้นทางที่หลากหลาย บางคนค้นพบตำแหน่งของตัวเองหลังจากที่ผ่านพ้นการลองผิดลองถูกและได้รับคำแนะนำ เช่นเดียวกับ "เอิร์น" พีระพงษ์ เรือนนินทร์ ที่เริ่มต้นจากการเป็นกองหลัง แต่ปัจจุบัน เขาคืออนาคตในตำแหน่งผู้รักษาประตูของทีมชาติไทย

เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เล่นกีฬาฟุตบอลหน่อย

ต้องย้อนไปตั้งแต่ผมยังเด็กครับ ผมก็เหมือนเด็กทั่วๆ ไปครับ ผมได้มีโอกาสลองเล่นบาสเกตบอล วอลเลย์ แฮนด์บอล แต่ที่บ้านผมชอบเตะฟุตบอล เลยเล่นบ่อยที่สุด จนหลงรักกีฬาฟุตบอลมากที่สุดครับ

เราได้ข้อมูลมาว่าตอนแรกเล่นตำแหน่งกองหลัง อะไรเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้มาเล่นผู้รักษาประตู?

ตอนเด็กๆ ผมมีรูปร่างค่อนข้างสูง โค้ชมองว่าไม่เหมาะกับตำแหน่งอื่นๆ เลยให้ไปเล่นกองหลัง ผมเป็นคนชอบอ่านเกม แต่จุดเปลี่ยนคือช่วงผมขึ้น ม. 2 ผมได้โอกาสไปลงทีมสมุทรปราการ เอฟซี และทีมไม่มีผู้รักษาประตูพอดี เขาก็เลยให้ผมไปเป็นผู้รักษาประตูเพราะผมสูงกว่าเพื่อนคนอื่นๆ พอเล่นไปเล่นมา ผมมีแวว เขาเลยให้ผมไปฝึกและลงเป็นตำแหน่งประจำ

เกิดอะไรขึ้นในตอนที่ไปอยู่กับอะคาเดมี่ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด?

ตอนผมขึ้น ม.4 ผมไปคัดบอลหลายที่ สุดท้ายได้เข้าโรงเรียนกุหลาบวิทยาลัย ช่วงนั้น คุณเนวิน ชิดชอบ เข้ามาทำฟุตบอลโรงเรียนพอดี เลยส่งตัวผมไปอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ต่อ แต่เพราะการที่ผมเป็นคนกรุงเทพฯ และเรียนโรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้านมาโดยตลอด ผมเลยโทรคุยกับแม่บ่อยว่าผมไม่ค่อยอยากจะไปแล้ว ต้องการที่จะเล่นกับทีมที่อยู่ในกรุงเทพฯ พอผ่านไปปีหนึ่ง ผมจึงตัดสินใจย้ายมาเรียนที่โรงเรียนเทพศิรินทร์แทนครับ

ตอน ม.5 ตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ บ้านเกิด มาอยู่กับโรงเรียนเทพศิรินทร์ อยากให้เล่าจากประสบการณ์ตรงหน่อยว่า อะคาเดมี่ของสโมสร กับระบบโรงเรียน แตกต่างกันขนาดไหน?

ตอนนั้นผมเข้ามาเรียนในฐานะโควตานักกีฬาของโรงเรียนครับ สำหรับผมแล้วระบบอะคาเดมี่ของสโมสรกับโรงเรียนแตกต่างกันเยอะมาก ทางสโมสรจะมีความเป็นมืออาชีพและจริงจังมากกว่า ทางโรงเรียนจะแค่มีหน้าที่เรียนตอนเช้าและซ้อมบอลตอนเย็น แต่ทางสโมสรจะมีทั้งการซ้อมที่เยอะกว่า เรื่องของอาหาร และ การทำตัวเป็นมืออาชีพ สโมสรจะเอาใจใส่กับหลายอย่างมากกว่าครับ

การเล่นกับทีมในลีกล่างในช่วงแรกๆ ของการค้าแข้งอาชีพ ประสบการณ์ตรงนั้นสอนอะไรบ้าง?

ผมได้เรียนรู้หลายอย่างครับ การมาเล่น ด. 2 ใจช่วงนั้น ผมได้เล่นกับผู้ใหญ่ครับ แตกต่างจากฟุตบอลระดับโรงเรียนมาก เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ส่วนการเล่นให้กับ บางกอก เอฟซี ช่วงนั้นเข้มข้นมากเพราะระดับก็สูงขึ้น แถมยังมีแฟนบอลที่เข้ามาเยอะกว่าเดิมเพราะลีกมีความเป็นมืออาชีพขึ้น ช่วงนั้นผมก็รู้สึกถึงความกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

ในที่สุด โอกาสในการได้เล่นในไทยลีกก็มาถึง อยากให้เล่าถึงความรู้สึกในตอนนั้นหน่อย

ปีแรกที่ผมได้เล่นไทยลีกกับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ผมได้ลงเล่นน้อยมาก แค่ 3-4 แมตช์ครับ ปีที่ต่อมาผมย้ายไปเล่นที่ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ผมก็ลงเล่นน้อยอยู่ แค่ 3 เกม แต่ที่ได้ลงเล่นมากที่สุดเป็นช่วงผมย้ายไปเล่นที่ พีทีที ระยอง กับ สุโขทัย เอฟซี ครับ ที่นั้นผมลงสนามอย่างสม่ำเสมอ

ตลอดอาชีพการค้าแข้งที่ผ่านมา ประทับใจกับช่วงเวลาไหนที่สุด?

ผมคิดว่าเป็นเกมในฤดูกาล 2019 ตอนที่ผมยังเล่นให้กับทีม พีทีที ระยอง และต้องไปเยือน การท่าเรือ เราเสมอ 1-1 และผมได้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ กับคว้ารางวัล เพลเยอร์ ออฟ เดอะ วีค อีกด้วย

ฤดูกาล 2021-22 ย้ายมาเล่นให้กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด รู้สึกอย่างไรบ้างกับการย้ายทีมครั้งนี้ และตั้งเป้าหมายในการขึ้นเป็นมือ 1 อย่างไร?

ตอนที่ปิดฤดูกาล มีหลายทีมที่ติดต่อผมมาครับ แต่เมืองทองเป็นทีมที่จริงจังมากที่สุดครับ ผมก็เลยเลือกเมืองทอง ผมดีใจครับ เพราะเป็นคนกรุงเทพฯ อยู่แล้วเลยอยากเล่นบอลในทีมที่อยู่ใกล้จังหวัดมากที่สุด ส่วนเรื่องเป้าหมายผมคิดว่าผมต้องพัฒนาตัวเองและตั้งใจซ้อมให้มากขึ้น เพื่อให้ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงครับ

วิเคราะห์จุดเด่นและสิ่งที่ต้องปรับปรุง

ผมคิดว่าผมเป็นคนที่ยืนตำแหน่งดีพอสมควร แต่จุดที่อยากแก้มีอยู่สองจุด คือเรื่องของการจับบอลแรกให้ดีกว่าเดิม และ การตัดสินใจออกมาตัดบอล ผมต้องพัฒนาให้เนี้ยบมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ครับ

เคยเล่นทีมชาติไทยชุดเยาวชนมาแล้ว ตั้งเป้าหมายการได้เล่นทีมชาติชุดใหญ่อย่างไร?

ผมเคยได้ติดทีมชาติ U-19, U-23 แล้ว ก็ชุดใหญ่ครับ แต่กับทีมชุดใหญ่เป็นการลงเล่นแบบไม่เป็นทางการ ส่วนเรื่องของการติดทีมชาติในอนาคตมันก็เป็นความฝันของทุกคนที่เล่นฟุตบอลอาชีพอยู่แล้ว ผมก็ไม่อยากไปกดดันตัวเองมาก ขอแค่ทำผลงานให้ดีในระดับสโมสรก่อน แล้วผมเชื่อว่าโอกาสติดทีมชาติก็มาเอง

ตั้งเป้าหมายอย่างไรกับอนาคตการค้าแข้ง?

เคยมีโค้ชคนหนึ่งบอกผมว่า เราควรสร้างเป้าหมายไปเรื่อย ๆ เพื่อที่เราจะไม่อิ่มตัวแล้วอยู่ที่เดิม ผมก็นำมาใช้กับชีวิตการค้าแข้งผมครับ จากเคยตั้งเป้าหมายในการติดทีมชาติ ในเมื่อติดทีมชาติแล้ว ผมก็วางเป้าหมายต่อไปว่าต้องการจะไปเล่นฟุตบอลที่ลีกต่างประเทศ ผมก็จะพยายามทำมันให้ได้ครับ

Latest

31 Oct 2023

ศิลปิน-ลูกหนัง : นาราภัทร งดงาม (มหาสารคาม เอสบีที)

thai league

None
Read morearrow-right

20 Oct 2023

Every 5 Games : รวมมิตรสถานการณ์หลังผ่าน 5 เกมแรกศึกปุ๋ยรุ่งอรุณ ลีก

thai league

None
Read morearrow-right

13 Oct 2023

จากบางระกำถึงทุ่งรังสิต : ศรัญยู มังสา (มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ)

thai league

None
Read morearrow-right