globe

EN

arrow-down

ภูธรสตาร์ : "นักเตะเลือดนักสู้" สุพจน์ วงษ์หอย - พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด

None

เด็กหนุ่มจากศรีราชา พัฒนาฝีเท้าในระดับเยาวชนก่อนแจ้งเกิดกับศรีราชา เอฟซี ยุคตะลุยไทยลีก

มาวันนี้ เขากลับมาสู่บ้านของเขาอีกครั้ง ที่ชลบุรี แต่เป็นการกลับมาที่มีเป้าหมายในการพาทีมจากเมืองพัทยา กลับไปสู่จุดที่เคยยืนให้ได้อีกครั้ง

"ผมใฝ่ฝันด้วยว่า อยากจะเลิกเล่น ตอนผมกลับไปเล่น T1 ถ้าทำได้กับพัทยา" นี่คือเรื่องราว และความฝันของ "หน่อย" สุพจน์ วงษ์หอย แบ็กจอมเก๋าจากพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด

-

ด.ช.สุพจน์ เกิดมาในครอบครัวชาวไร่สัปปะรด และไม่ต่างกับเด็กผู้ชายทั่วไป ที่รักและเล่นฟุตบอล ก่อนจะจริงจังบนเส้นทางลูกหนัง กับ โรงเรียนบ้านเขาคันทรง ซึ่งฝีเท้าของเขาโดดเด่นจน "โค้ชเก่ง" ไพรัช ชุมพล สตาฟฟ์โค้ช ชลบุรี-สันนิบาตฯ สมุทรปราการ ทาบทามเขาไปอยู่ร่วมชายคาอะคาเดมี่ในเวลานั้น

และจุดเปลี่ยนสำคัญ คือคำพูดของ "แม่" ที่ทำให้เขาเลือกอนาคตในฐานะนักฟุตบอลเยาวชนของโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ชลบุรี หลังก่อนหน้านี้ เขาเลือกปฏิเสธมาตลอด

"ตอนช่วง ม.1-ม.2 ด้วยฐานะทางบ้านไม่ค่อยจะดี เป็นลูกชาวสวนปลูกสัปปะรด แล้วตรงไร่สัปปะรด มีบ่อขยะ ตอนนั้นเราเป็นเด็ก ก็เก็บของเก่าที่บ่อขยะ อาทิตย์หนึ่ง 1,000-2,000 บาท รู้สึกว่ามันเยอะมากเลยนะ ทำให้ไม่อยากไป จนคุณแม่บอกว่าจะมาใช้ชีวิตเป็นเด็กเก็บขยะตลอดชีวิตมันไม่ได้นะ" สุพจน์ เล่าถึงจุดเปลี่ยนในชีวิต

ช่วงชีวิตในรั้ว น้ำเงิน-แสด ผ่านความสำเร็จมาอย่างมากมาย พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นซึ่งเติบโตในทำเนียบทีมชาติไทย ชุดเยาวชนอย่าง บุญธรรม ยับยั้ง, เกรียงไกร พิมพ์รัตน์, ชัยณรงค์ ทาทอง, พรศักดิ์ ป้องทอง ทั้งฟุตบอลกรมพลศึกษา, ฟุตบอลไนกี้ พรีเมียร์คัพ และ เหรียญทองกีฬาเยาวชนแห่งชาติ

นี่เองจึงเป็น "ใบเบิกทาง" ที่พาเขาก้าวสู่โลกอีกใบที่ชื่อว่า "ฟุตบอลอาชีพ"

-

ในวัย 17 ปี เขาได้รับโอกาสลงเล่นฟุตบอลอาชีพหนแรกกับ ชลบุรี-สันนิบาตฯ สมุทรปราการ ลงเล่นในดิวิชั่น 1 ในปี 2003 ต่อเนื่องมาจนวันที่กลายเป็น ศรีราชา เอฟซี ในปี 2007

ณ ที่นี่เอง จึงกลายเป็น “บ้านเกิด” และแหล่งสร้างชื่อของเขาให้เป็นที่รู้จักในวงการลูกหนังไทย ในฐานะแบ็กขวาดาวรุ่ง ผู้พาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีกถึง 2 หน

"ศรีราชา มันไม่ได้แค่ฟุตบอลอย่างเดียว มันมีความเป็นอยู่ที่ทำให้อยู่แล้วสบาย เรามีความสุข ตอนนั้น เราเป็นเด็กไม่ได้คิดอะไร เราคิดว่าเราเต็มที่ มีความสุขกับมัน" สุพจน์ เล่าถึงการเป็นแข้งของทัพปลาโทงเทงสีน้ำเงิน

แต่การตกชั้นของศรีราชา เอฟซี ในปี 2011 ส่งผลถึงสถานะทางการเงินของทีม และทำให้ทีมต้องปล่อยตัวเขาออกไปร่วมงานกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ในปีต่อมา

"ศรีราชา มันคือบ้านเราเลย เราใช้ชีวิตอยู่ตรงนั้น เราออกจาก Safe Zone ตอนนั้นอายุ 24 ย่าง 25 มันต้องใช้ชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ต้องไปเจออะไรหลายๆ อย่างล่ะ" สุพจน์ เล่าถึงการออกจาก "บ้าน" ครั้งแรกในชีวิตการเป็นนักฟุตบอล

-

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เขานิยามประสบการณ์ว่าเป็นการ "ผจญภัย" ตั้งแต่ สุพรรณบุรี เอฟซี, อาร์มี่ ยูไนเต็ด, อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด, ไทยฮอนด้า และ ตราด เอฟซี ก่อนจะตัดสินใจลงมาเล่นไทยลีก 3 ครั้งแรกกับ อุทัยธานี เอฟซี ที่เพิ่งตกชั้นจากลีกพระรองในฤดูกาล 2021/22

"ในช่วงที่ลงมาเล่น T3 ความยากมันมีคือสภาพสนามที่เราไม่คุ้นชิน ความเป็นมืออาชีพของกรรมการในการตัดสิน ความเป็นมืออาชีพของนักฟุตบอล และในเรื่องของเวลาการแข่งขัน ซึ่งค่อนข้างจะร้อน ตอนนั้นต้องปรับตัว ต้องเรียนรู้ใหม่หมด ค่อนข้างยากเหมือนกันในช่วงแรกๆ" แบ็กจอมเก๋า เผยถึงการลงมาเล่นไทยลีก 3 ครั้งแรกกับอุทัยธานี เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

แต่เมื่อปรับตัวได้ เขากลายเป็นขาประจำของทีมและลงสนามช่วยทีมถึง 20 เกมกับทำ 1 ประตู พาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 อีกครั้งพร้อมพกถ้วยแชมป์กลับเมืองสะแกกรังได้สำเร็จและลบคำปรามาสของใครหลายคนกว่า "แก่แล้วเลยไปเล่น T3" ด้วยการติดทีมยอดเยี่ยมของไทยลีก 3 ในปีนั้นอีกด้วย

"นักเตะหลายคนที่ลงไป คนอื่นมองว่า หมดสภาพแล้ว มันแก่แล้วเลยลงไปเล่น มันลงไปเอาเงินกัน (การคว้าแชมป์)มันเลยพิสูจน์ให้เห็นว่า เรายังไม่หมดสภาพ เรายังเล่นได้นะ มันทำให้เกิดความฮึกเหิมที่จะสร้างผลงานออกมาให้ดี" สุพจน์ มองถึงประเด็นนี้

แต่การเปลี่ยนแปลงที่อุทัยธานี คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาเริ่มคิดถึงบ้านและครอบครัว หลังออกไปเผชิญโลกข้างนอกนานนับทศวรรษ

-

"มันเหมือนเป็นดวงด้วย เพราะมันมาในเวลาที่พอดี" เขานิยามการย้ายมาเล่นให้กับทัพโลมาพัทยา ในซีซั่นนี้

ในเกมที่อุทัยธานี เอฟซี ชนะ พัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด สุพจน์ ทำแอสซิสต์ในเกมนั้นและโชว์ฟอร์มโดดเด่นจน "เสี่ยโชค" โชคชัย เทศปาน ประธานสโมสร ไม่รีรอติดต่อเจ้าตัวมาเป็นสมาชิกใหม่ของทีม ซึ่งอีกเหตุผลหนึ่งคือการกลับมาสู่ "บ้าน" ที่เขาจากมาหลังจากการ "ระเหเร่ร่อน" กับหลายทีม

"เราออกไปผจญภัยไปตามหาความท้าทายจนมีความรู้สึกว่า มันถึงเวลาที่กลับบ้านได้แล้ว ด้วยความที่เราเป็นห่วงคุณแม่ด้วย เพราะก่อนหน้านี้คุณพ่อผมเสียไป มันเลยเป็นเหตุผลไม่ยากเลยที่กลับมาใกล้ๆ คุณแม่" สุพจน์ เผยถึงอีกเหตุผลที่ตัดสินใจกลับมาบ้านอีกครั้ง

ซึ่งเวลานี้ สุพจน์ กลายเป็นกำลังหลักของทีม โดยเป็นแข้งเอาท์ฟิลด์คนเดียวในทีมที่ลงสนามครบ 90 นาที ทุกเกมในเลกแรกจนพาทีมนำเป็นจ่าฝูงโซนบูรพาในเวลานี้ โดยมีเป้าหมายที่จะพาโลมาตัวนี้ กลับสู่จุดที่เคยยืน นั่นคือ “ไทยลีก 2” และยังหวังที่จะปิดฉากวันสุดท้ายในชีวิตนักฟุตบอล ในฐานะ “นักฟุตบอลไทยลีก” กับพัทยา ดอลฟินส์ ยูไนเต็ด สักครั้ง

"ผมใฝ่ฝันด้วยว่า อยากจะเลิกเล่น ตอนผมกลับไปเล่น T1 ถ้าทำได้กับพัทยาและทีมยังต้องการผมอยู่" สุพจน์ กล่าวถึงฝันนี้ที่หวังว่าจะเป็นจริงได้ในสักวัน

Latest

31 Oct 2023

ศิลปิน-ลูกหนัง : นาราภัทร งดงาม (มหาสารคาม เอสบีที)

thai league

None
Read morearrow-right

20 Oct 2023

Every 5 Games : รวมมิตรสถานการณ์หลังผ่าน 5 เกมแรกศึกปุ๋ยรุ่งอรุณ ลีก

thai league

None
Read morearrow-right

13 Oct 2023

จากบางระกำถึงทุ่งรังสิต : ศรัญยู มังสา (มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ)

thai league

None
Read morearrow-right