สตาร์ภูธร : จาร์เดล คาปิสทราโน่ (สงขลา เอฟซี)

เสียงคลื่นซัดสาดกระทบกับโขดหินริมหาดสมิหลา อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองสงขลา ยังทำหน้าที่ต้อนรับแขกจากต่างถิ่น เข้ามาเยี่ยมเยือนเป็นเช่นนี้เสมอ

เช่นเดียวกับดาวเตะบราซิลรายนี้ ที่ผ่านประสบการณ์การลงเล่นบนแผ่นดินไทย จากดินแดนภูเขา, ที่ราบสูง, ที่ราบลุ่ม และล่าสุดกับดินแดนเมืองใต้ อันมีมนต์เสน่ห์และความบ้าฟุตบอล ไม่แพ้ภูมิภาคอื่นของเมืองไทย

เขาคนนี้ที่เราพูดถึง คือ “จาร์เดล คาปิสทราโน่” กองหน้าจอมเก๋าแห่ง สงขลา เอฟซี

-

จุดเริ่มต้นของเขาในเส้นทางลูกหนังอาชีพ คงต้องย้อนกลับไปในปี 2010 กับ ริโอพาร์เดนเซ่ ทีมในรัฐริโอ กรังจี ดู ซูว์ ก่อนที่จะผจญภัยกับหลายทีมในบ้านเกิด ซึ่งระดับที่สูงสุดของเขา คือ เซเรีย ดี กับทีมอย่าง โบตาโฟโก-SP และ ยูนิคลินิก

กระทั่งในปี 2017 เขาได้รับข้อเสนอจากทีมในระดับ วี ลีก ของเวียดนามอย่าง ทัน กวางนินห์ ซึ่งเขาได้ลงเล่นฟุตบอลเอเอฟซี คัพ ในปีนั้น ก่อนจะมุ่งหน้ามาหาความท้าทายใหม่ในระดับลีกรองกับ หนองบัว พิชญ ในช่วงเลกสองของปีเดียวกัน

“ผมเล่นที่เวียดนามในเลกแรกของปี 2017 กับทีมในระดับ วีลีก ผมได้เล่น เอเอฟซี คัพ มาก่อน ก่อนจะย้ายมาเล่นที่หนองบัว ในเลกสอง”

“ก่อนหน้านี้ผมพอรู้เกี่ยวกับฟุตบอลไทยอยู่บ้าง แน่นอนว่า ผมชอบประเทศไทยนะ ผมชอบฟุตบอลไทย และก่อนหน้านี้มีข้อเสนอจากทีมในเวียดนามอยากได้ผมไปเล่น พวกเขาให้เงินเดือนที่สูง แต่ผมเลือกรับข้อเสนอ หนองบัวฯ ไปแล้ว ก่อนจะย้ายไปเล่นในเลกสอง”

ซึ่งการเล่นฟุตบอลในเมืองไทย เขาได้พบว่า ฟุตบอลแดนสยาม ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และมีมาตรฐานที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังเขาผจญภัยทั้งในลีกพระรอง และไทยลีก 3

“ตอนที่ผมมาเล่นที่ หนองบัว ในปี 2017 ผมพบว่ามันยากมากที่มาเล่นฟุตบอลที่นี่ หลายทีมแข็งแกร่งมาก และมีมาตรฐานใกล้เคียงกันมากขึ้นในทุกๆ ปี”

“ไม่นานมานี้ ผมคิดว่า มาตรฐาน ความแข็งแกร่งของทีมในไทยลีก 2 และ ไทยลีก 3 เริ่มสูสีกับหลายทีมในไทยลีก ผู้เล่นหลายคนที่เลิกเล่นไป หรือ เข้ามาเล่นใหม่ มีสไตล์ที่แตกต่างกัน ซึ่งมันทำให้หลายทีมมีมาตรฐานและเอาชนะยากขึ้น”

ชีวิตลูกหนังในเมืองไทยของ จาร์เดล มีทั้งวันชื่นคืนสุข กับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในการพาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 3 ในปี 2018 และวันที่เศร้าปานหยาดน้ำตาไหลเป็นสายธารกับวันที่ชวดเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 กับ อุดร ยูไนเต็ด ใน 3 ปีจากนั้น

“ตอนนั้นผมเศร้ามากเลยนะ เพราะเรามีโอกาสมากตอนนั้น แต่ต้องยอมรับว่า ราชประชา เป็นทีมที่ดี ประตูในตอนนั้น (เกียรติพล อุดม) เขาทำได้ดี แต่จบเกมเราไม่ได้เลื่อนชั้น ผมร้องไห้เสียใจอย่างมาก เพราะโค้ชส่วย (สุกฤษฎิ์ โยธี-กุนซือ อุดร ยูไนเต็ด ในเวลานั้น) ช่วยผมอย่างมาก เขาควรได้เครดิตนี้พร้อมกับผู้เล่นทั้งหมด พวกเขาสร้างผมโอกาสให้ผมทำประตูและช่วยกันปั้นผมให้เป็นดาวซัลโว แต่ผมช่วยพวกเขาเลื่อนชั้นไม่ได้ ผมเคยเลื่อนชั้นกับ ขอนแก่น ยูฯ และผมอดเลื่อนชั้นกับ อุดรฯ มันเศร้า แต่นั่นแหละ มันคือฟุตบอล”

ภายหลังจากการไปเล่นกับ ราชประชา ในระดับไทยลีก 2 เมื่อฤดูกาลถัดมา เขาตัดสินใจกลับมาเล่นฟุตบอลลีกภูธรกับ สงขลา เอฟซี ในมุมมองเขาที่เคยเล่นฟุตบอลแทบจะทั่วไทย เขายอมรับว่าฟุตบอลภาคใต้เป็นฟุตบอลที่ไม่ง่ายเลย แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคที่เขาหวาดกลัว และใช้ความมุ่งมั่นทำงานเพื่อทัพเงือกสมิหลากับเป้าหมายในการพาทีมไปให้สูงที่สุด

“เกมแรกๆ ที่ผมเล่น มันเหมือนว่า ฟุตบอลที่นี่เล่นกันค่อนข้างหนักและแข็งแกร่ง มันยากที่จะเล่นฟุตบอลที่นี่ ผมต้องหนีการสกัดที่เข้าทั้งผมทั้งคน ซึ่งกรรมการบางทีก็ไม่ได้ให้ฟาล์ว แต่มันคล้ายกับที่เล่นฟุตบอลทางตอนใต้ของบราซิล ที่เล่นแข็งแกร่ง ใช้พละกำลัง เพราะมันใกล้ๆ แถบ ปารากวัย อุรุกวัย อาร์เจนติน่า แต่มันไม่แย่เท่าไร”

“แน่นอนว่า ผมมาสงขลา ผมคิดว่าที่นี่คือเบอร์หนึ่ง พวกเขามีสนามซ้อม มีอะคาเดมี่ที่ดีและเราได้เคยปะทะฝีมือกัน เงินเดือนที่นี่ออกตรงเวลา มันทำให้ผมคิดถึงเรื่องฟุตบอลอย่างเต็มที่ แต่เราเคารพคู่แข่ง และมองเป้าเป็นขั้นๆ ซึ่งสิ่งแรกที่เรามองคือการแชมป์โซนใต้ และพาทีมไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก และพาทีมเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ให้ได้ และถ้าเป็นดาวซัลโวได้ มันจะดีมากไปเลยล่ะ” จาร์เดล กล่าวทิ้งท้าย

-

ท้ายที่สุด เราไม่รู้ว่าบทสรุปของดาวยิงที่เพิ่งจะฉลองวันเกิดปีที่ 33 ในสัปดาห์นี้ จะเป็นเช่นไรในฤดูกาลนี้

แต่เชื่อมั่นว่าจากคำพูดที่บอกกับเรา คือความตั้งใจที่เขาเข้ามาเล่นฟุตบอลที่ สงขลา ที่ ที่อยากจะทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อสร้างตำนานฟุตบอลเมืองสงขลาบทใหม่ให้เป็นที่โจษจันให้ได้อีกครั้ง