อายุน้อยร้อยลีลา : รวมมิตรทีมอายุน้อยแห่งไทยลีก 3 ซีซั่น 2023/24

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฟุตบอลปุ๋ยรุ่งอรุณ ลีก คือรากฐานหนึ่งของการพัฒนาลูกหนัง โดยเฉพาะผู้เล่นที่อายุน้อยที่ได้โอกาสลงสนามในระดับลีกอาชีพนัดแรกจากที่นี่

ในส่วนของการแข่งขันฤดูกาล 2023/24 กว่า 72 ทีม ทุกๆ ทีม พยายามผลักดันในการใช้แข้งอายุน้อยขึ้นมาด้วยหลายเหตุผล โดยบทความนี้ ได้รวบรวม 6 ทีมที่มีค่าเฉลี่ยอายุของทีม "น้อยที่สุด" ในแต่ละโซนการแข่งขัน มาฝากแฟนลูกหนังภูธรให้ได้ติดตามกัน

โซนภาคเหนือ - กำแพงเพชร เอฟซี

หนึ่งทีมที่มีแนวทางการสร้างผู้เล่นท้องถิ่นมาตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งสโมสร และผลิตแข้งประดับวงการฟุตบอลไทยมาอย่างต่อเนื่อง อย่าง กำแพงเพชร เอฟซี ภายใต้การปลุกปั้นของ "โค้ชเศก" เศกสรร ศิริพงษ์ ประธานสโมสรดีกรีโปร ไลเซนส์

ที่ฤดูกาลนี้ “นักรบชากังราว” มีค่าเฉลี่ยอายุอยู่ที่ 20.09 ปี แข้งหลายรายต่างเริ่มต้นเล่นฟุตบอลที่นี่ โดยในรายชื่อที่ทีมส่งชื่อมา มีถึง 15 รายที่เริ่มนับหนึ่งบนเส้นทางลูกหนังกับทีม ด้วยแนวทางที่ว่าเมื่อคุณเก่งพอก็แก่พอ ไม่น่าแปลกใจที่ จักรินทร์ ลีนาราช จะได้ลงประเดิมสนามไปแล้วด้วยวัยแค่ 16 ปี รวมทั้งข้างสนามยังมี ฐปนวัฒน์ ชาวพเยาว์ กองหน้ารุ่นราวคราวเดียวกันรอโอกาสนั้นอยู่

โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ - นครราชสีมา ยูไนเต็ด

ขุนพล “หัวจักรพิฆาต” ที่มีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณทำให้ในฤดูกาลนี้หันมาใช้แข้งท้องถิ่นเต็มตัว ภายใต้การวางหมากของ "โค้ชน้อย" บัณฑิต จูมผา กุนซือนักปั้นที่เคยฝากผลงานเดบิวต์ "เจ้าบอย" ฤทธิศักดิ์ กัลยา นายด่านวัยรุ่นที่ได้ไปเล่นให้กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด มาแล้ว

และการรีเทิร์นรอบนี้ ปรัชญาการปั้นเด็กท้องถิ่นก้าวขึ้นมา จึงเป็นเรื่องหลักในการที่จะช่วยพยุงสโมสร โดยปีนี้ ทีมใช้แข้งที่อายุต่ำกว่า 20 และเป็นเด็กปั้นของทีมถึง 13 ราย โดยใน 13 ราย มีแข้งอายุ 16 ปี จำนวน 2 ราย และได้รับโอกาสลงสนามไปแล้ว อย่าง ธันวา คำกอง กองหน้าของทีม โดยอายุเฉลี่ยของทีมนี้ อยู่ที่ 20.12 ปี

ซึ่งต้องดูว่า เด็กๆ ของโค้ชน้อย จะช่วยให้ “หัวจักรรถไฟ” ส่งเสียงหวูดดังสนั่นหวั่นไหวได้สักเท่าไหร่ในขวบปีนี้

โซนภาคตะวันออก - RBRU จันทบุรี ยูไนเต็ด

สำหรับโซนบูรพา การตกชั้นของ บ้านบึง เอฟซี ทำให้แชมป์ทีมอายุน้อยของโซนนี้ ต้องเสียไป ทว่าในฤดูกาลใหม่ “ทับทิมเพลิง” หรือชื่อเดิมคือ อัศวิน เกาะขวาง ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุด ที่ 20.43 ปี ขุมกำลังส่วนใหญ่ ถือเป็นผลผลิตที่มาจาก อัศวิน เกาะขวาง ยูไนเต็ด ที่ส่งแข่งขันในศึกเอฟเอ ไทยแลนด์ ยูธ ลีก ในปีที่ผ่านมา และหลายรายได้รับโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว

ซึ่งต้องยอมรับว่า การได้กุนซือฝีมือดีอย่าง "โค้ชโจ้" อุทัย สุริเมือง อยู่กับทีมต่อ น่าจะเป็นผลดีในการสร้างทีมระยะยาว ในปีที่โซนนี้ มีโอกาสเข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีกได้ทุกทีม

โซนกรุงเทพ และปริมณฑล - โบลาเวน สมุทรปราการ เอฟซี

อาจจะเรียกได้ว่า โซนนี้ เป็นโซนที่รวมแข้งดาวรุ่งไว้มากที่สุด เพราะส่วนหนึ่งคือการมีทีมที่เป็นมหาวิทยาลัยถึง 5 ทีม และมีทีมที่ขึ้นชื่อลือชาสร้างผู้เล่นด้วยแข้งอายุน้อยอย่าง พราม แบงค็อก และ เอยูยู อินเตอร์ แบงค็อก

ทว่าทีมที่ว่ามาทั้งหมดทั้งมวล ยังสู้ โบลาเวน สมุทรปราการ ไม่ได้ "ป้อมปราการ" ที่มีอายุเฉลี่ยที่ 19.44 ปี น้อยที่สุดในโซนนี้ โดยอย่างที่ทราบกันว่า ทีมนี้มีความร่วมมือเชิงพันธมิตรกับทาง "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมแกร่งในระดับรีโว่ ไทยลีก

แต่ผู้เล่นหลายรายที่ถูกส่งมาเล่นให้ทีม ต่างพกผลงานอันดับ 3 ของเวทีเอฟเอ ไทยแลนด์ ยูธ ลีก 2022 ในรุ่น U18 มาแล้ว อาทิ ชุนตะ ฮาเซกาวะ, ภูมิชนก แกมกล้า, ภูมิชนก แกมกล้า, ดนัย เจมส์ สมาร์ท รวมไปถึงดีกรีทีมชาติไทย ชุด U17 อย่าง สุรชัย บุญชารี โดยมี "โค้ชพีท" จิราวัฒน์ ไหลนานานุกูล กุนซือหนุ่มโปร ไลเซนส์อีกราย รับบทบาทคุมทัพ ฉะนั้น อยู่ที่การเลือกจับปั้นใช้ และตัวของพวกเขาว่าจะสามารถพัฒนาเป็นแข้งที่เก่งกาจได้หรือไม่

โซนภาคตะวันตก - อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด

หากจะนึกถึงสถานศึกษาที่เป็น ตักศิลาลูกหนัง "เจ้าสัวน้อย" ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี คือชื่อหนึ่งที่หลายคนนึกถึง ก่อนจะต่อยอดไปสู่การส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันในระดับถ้วยพระราชทาน และเลื่อนชั้นสู่ลีกอาชีพมาถึงปีนี้เป็นฤดูกาลที่ 13 แล้วในชื่อของ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด

ด้วยความที่เป็นทีมที่เน้นสร้างจากรุ่นสู่รุ่น การใช้แข้งอายุน้อยสำหรับทีมถือเป็นปกติ โดยฤดูกาลนี้ พวกเขามีทีมอายุเฉลี่ยที่ 19.12 ปี น้อยที่สุดของโซนและของลีกในฤดูกาลนี้

ภายใต้การควบคุมคุณภาพของ “เซอร์ธร” ธร สอระภูมิ พวกเขาดันผู้เล่นในรุ่นปี 2547-2548 ขึ้นมาเป็นตัวหลักแบบเต็มตัว โดยมีดีกรีแชมป์ฟุตบอลนักเรียน กรมพลศึกษา รุ่น 18 ปี ก และอันดับ 4 เอฟเอ ไทยแลนด์ ยูธ ลีก 2022 ในรุ่น U18 อาทิ ธีร์กวิน จันทร์ศรี, สิรภพ สะอาดเอี่ยม, กฤตภัค แสงสวัสดิ, ธนวัฒน์ ศรีสวัสดิ์, องศา สิงห์ทอง ซึ่งหลายรายมีดีกรีทีมชาติไทยในรุ่นเยาวชนมาแล้ว

โซนภาคใต้ - แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด

ทัพ “ฉลามอันดามัน” มีอันต้องตกชั้นสู่ลีกภูธรอีกครั้ง ด้วยข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณทำให้ทีมหันมาใช้บริการแข้งท้องถิ่นเป็นแกนหลัก รวมไปถึงแข้งสายเลือดปักษ์ใต้ที่รีเทิร์นกลับมาช่วยทีม

แกรนด์อันดามัน ระนอง ยูไนเต็ด ชุดนี้มีอายุเฉลี่ยที่ 21.69 ปี น้อยที่สุดในบรรดาทีมในโซนภาคใต้ จากทีมที่เคยก้าวไปไกลถึงการเลื่อนชั้น และประคองตัวในลีกรองอยู่หลายฤดูกาล วันนี้กลับสู่สามัญด้วยขุมกำลังผู้เล่นดาวรุ่ง พร้อมกับตั้ง ทิพยันต์ จันทร์แก้ว หวนมาคุมทัพอีกครั้ง

น่าสนใจว่า “ฉลามอันดามัน” ที่สลัดคราบกลายเป็นทีมพลังหนุ่ม จะสามารถยืนหยัดแข่งขันกับทีมระดับพระกาฬ โดยเฉพาะกับโซนใต้ที่การแข่งขันเข้มข้นได้ดีมากน้อยแค่ไหน

จะด้วยสถานการณ์ หรือแนวทางของสโมสรฯ ก็ตาม แต่การให้โอกาสเด็กๆ เหล่านี้ได้มีเวทีแสดงฝีเท้าถือเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาฟุตบอลไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีเวทีฟุตบอลอาชีพให้ผู้เล่นได้เรียนรู้ประสบการณ์จริงในสนาม ความกดดัน สถานการณ์เฉพาะหน้า และวินัยในสนาม จะสอนผู้เล่นเยาวชนที่จะโตขึ้นให้เป็นแข้งอาชีพเพื่อเป็นกำลังหลักให้กับทีมชาติไทยและวงการฟุตบอลไทยในอนาคต