เมธี สาระคำ : แข้งดาวรุ่งชาวไทยในวันที่เฉิดฉายกับระยอง เอฟซี

ในช่วงเวลาที่แฟนบอลม้านิลมังกรคาดหวังว่าแข้งชาวต่างชาติจะเข้ามาประคองทีมให้อยู่รอดบนลีกสูงสุด ทว่ากลับเป็นแข้งดาวรุ่งสัญชาติไทยที่เข้ามาทำให้ทีมมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางปัญหาต่าง ๆ มากมาย

แม้ว่า ระยอง เอฟซี จะไม่สามารถอยู่รอดบนลีกสูงสุดได้ แต่การเข้ามาทำทีมของ ทากิ มาซามิ กุนซือชาวญี่ปุ่น ทำให้พวกเขาค้นพบแนวรุกดาวรุ่งชาวไทยฝีเท้าดีที่รอคอยโอกาสลงสนามมาโดยตลอด

Thai League พาทุกคนมาพูดคุยกับ เมธี สาระคำ กองหน้าดาวรุ่งระยอง เอฟซี ที่ย้ายมาแจ้งเกิดกับม้านิลมังกรด้วยผลงาน 3 ประตูในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020-21 อะไรคือเบื้องหลังฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมในวัย 21 ปี, โค้ชทากิมีส่วนช่วยพัฒนาฝีเท้าอย่างไร ติดตามไปพร้อม ๆ กับเรา

Thai League : เหตุผลที่คุณเลือกย้ายมาอยู่กับ ระยอง เอฟซี ในรูปแบบสัญญายืมตัวจาก สมุทรปราการ ซิตี้

เมธี สาระคำ : เหตุผลที่ผมย้ายมาที่นี่คือผมอยากมาช่วยระยอง เอฟซี และหาโอกาสลงสนามให้กับตัวเอง ดีลนี้เกิดจากการที่ระยองสนใจในตัวผม และติดต่อขอยืมตัวมา

ช่วงต้นซีซั่น 2020 ที่ผมย้ายมาอยู่กับสมุทรปราการ ซิตี้ ผมไม่ได้รับโอกาสลงสนาม เพราะว่าทีมมีนักเตะรุ่นพี่ในตำแหน่งกองหน้าเต็มแล้ว ผมจึงย้ายมาหาโอกาสกับระยอง เอฟซี

Thai League : ระยอง เอฟซี สร้างความเชื่อมั่นให้ตัวคุณอย่างไรบ้างในฐานะนักเตะดาวรุ่ง

เมธี สาระคำ : ผมย้ายมาที่นี่แรก ๆ ผมก็ยังไม่ได้รับโอกาส เพราะว่าตอนนั้นทีมใช้โค้ชชาวบราซิล (อาร์ตูร์ แบร์นาเดส) เขาค่อนข้างมั่นใจในศักยภาพของกองหน้าต่างชาติที่เขาเลือกเข้ามา

จุดเปลี่ยนสำคัญของผมเกิดขึ้นตอนที่โค้ชทากิ มาซามิ เข้ามาเป็นโค้ชคนใหม่ เขาให้โอกาสผมลงสนามเพื่อสร้างความมั่นใจ โค้ชเห็นความใจสู้ของผม เห็นผลงานในสนามซ้อมที่ดี

Thai League : จากนั้นระยอง เอฟซี เผชิญปัญหาด้านการเงิน จนถึงขั้นนักเตะพากันหยุดซ้อม เกิดอะไรขึ้นกับม้านิลมังกรในตอนนั้น

เมธี สาระคำ : ตอนนั้นนักเตะทุกคนในทีมเหมือนจะหมดกำลังใจกันแล้ว ที่สำคัญเงินเก็บก็หมดด้วย

โค้ชทากิ มาซามิ สั่งให้ทีมหยุดซ้อมทันที หยุดซ้อมประมาณหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นโค้ชเป็นคนเข้าไปเคลียร์กับสโมสรด้วยตัวเอง ทำทุกอย่างเพื่อลูกทีม ทำให้สถานการณ์ของทีมกลับมาเหมือนเดิม

Thai League : การได้ร่วมงานกับโค้ชชาวญี่ปุ่นอย่าง ทากิ มาซามิ เขามีส่วนช่วยพัฒนาศักยภาพของคุณอย่างไรบ้าง

เมธี สาระคำ : อย่างแรกเลยผมรู้สึกว่าโค้ชทากิเป็นโค้ชที่ชอบสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะ รวมถึงตัวผมด้วย ทำให้ผมมีความมั่นใจและกล้าเล่นมากขึ้น

โค้ชทากิเป็นคนที่เน้นรายละเอียดทุกเรื่อง ไม่เพียงแค่เรื่องฟุตบอล เขาไม่เคยปริปากว่านักเตะสักครั้ง คอยช่วยเหลือและเติมเต็มลูกทีมทุกคน ที่สำคัญเขามีรูปแบบการเล่นฟุตบอลที่ชัดเจน

Thai League : อะไรคือปัจจัยที่ทำให้คุณชนะใจโค้ชทากิจนได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องทั้งที่เป็นแข้งดาวรุ่ง

เมธี สาระคำ : ผมคิดว่าผมมีความมั่นใจในการเล่นฟุตบอลมากขึ้น โค้ชทากิแสดงความเชื่อมั่นในตัวผมแบบชัดเจนมาก

ผมคิดว่านักเตะทุกคนในทีมก็มีส่วนช่วยผลักดันฟอร์ม คือทุกคนช่วยกัน ผมก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่

Thai League : แม้ว่าทีมจะร่วงตกชั้นไปแล้วขณะที่เหลือโปรแกรมอีกหลายนัด แต่ ระยอง เอฟซี ยังแสดงสปิริตสู้กับคู่แข่งได้อย่างสนุก ทากิมีวิธีการกระตุ้นนักเตะอย่างไร

เมธี สาระคำ : โค้ชทากิจะบอกกับนักเตะทุกคนก่อนเกมเสมอว่าให้เล่นเต็มที่ทุกนัด ไม่ว่าสถานการณ์ของทีมจะเป็นอย่างไร เขาต้องการแค่ชัยชนะ แม้ว่าทีมจะตกชั้นไปแล้ว พวกเราต้องแสดงศักยภาพของเราอย่างเต็มที่ นั่นคือวิธีการกระตุ้นของเขา

Thai League : เป็นปีที่คุณโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในวัย 21 ปี อยากให้พูดถึงเบื้องหลังฟอร์มการเล่นของตัวเอง

เมธี สาระคำ : ผมคิดว่าผมเป็นนักฟุตบอลที่มีความมุ่งมั่นอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าทีมจะโดนนำ 1-0, 2-0 หรือโดนนำขาดลอย ผมก็สู้เต็มที่และพยายามทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด

นักเตะรุ่นพี่ในทีมเชื่อมั่นในตัวผม ทุกคนแสดงให้เห็นว่ายังอยากเล่นบนลีกสูงสุด พร้อมสู้ทุกอย่างเพื่อแลกกับชัยชนะ

Thai League : เป้าหมายส่วนตัวของคุณในฤดูกาลหน้า

เมธี สาระคำ : ผมยังอยากเล่นฟุตบอลในลีกสูงสุดต่อไป อยากได้โอกาสลงสนามต่อเนื่อง ผมต้องกลับไปสู้ที่สมุทรปราการ ซิตี้ ต่อไปในช่วงปรีซีซั่น ส่วนเรื่องอนาคตที่จะปล่อยยืมตัวค่อยว่ากัน ผมเล่นที่ไหนก็ได้ ขอแค่ผมได้เล่น

Thai League : แฟนฟุตบอลไทยลีกส่วนใหญ่เชียร์ให้คุณก้าวขึ้นไปติดทีมชาติไทยอีกครั้ง หลังเคยผ่านประสบการณ์มาแล้วในทีมชุดเยาวชน

เมธี สาระคำ : เป้าหมายของผมที่ตั้งไว้ คือการกลับไปติดทีมชาติไทย ชุดที่เตรียมลงเล่นในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม เพราะมันคือความฝั่นของผม และมันเป็นช่วงอายุที่พอดีกับผม

Thai League : ถึงแฟนบอลระยอง เอฟซี ในวันที่ทีมโบกมือลาลีกสูงสุด

เมธี สาระคำ : ผมขอขอบคุณแฟนบอลระยอง เอฟซี ที่คอยติดตามเชียร์ ผมต้องขอโทษที่ไม่สามารถช่วยให้ทีมอยู่รอดบนลีกสูงสุดได้ครับ