03 Oct 2023
Big Hands แห่งแดนตานี : นินูรุดดีน นิเดร์หะ (ปัตตานี เอฟซี)
ปัตตานี เมืองที่มีความเป็นมา ความเป็นไปที่เก่าแก่และมีเสน่ห์ไม่แพ้ที่ใด ทั้งปราการบรรพต-ทิวเขาสันกาลาคีรี และสายน้ำทั้งสองสายอย่าง แม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรี ต่างทำหน้าที่ส่งมอบความร่มเย็นและความสุขสู่ผืนแผ่นดิน
เฉกเช่นเดียวกับ "มิง" นินูรุดดีน นิเดร์หะ ผู้รักษาประตูมากประสบการณ์ของทัพ "ปืนใหญ่ลังกาสุกะ" ปัตตานี เอฟซี ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ร่วมสุขร่วมทุกข์กับทีมมาเป็นปีที่ 5 จากเด็กหนุ่มเมืองยะหริ่ง เติบโตมาด้วยฟุตบอลก่อนสู่เมืองหลวงและกลับมาเป็น "ปราการอันแข็งแกร่ง" และ "สายธารที่มอบความสุข" สู่แฟนลูกหนัง บนถิ่นเรนโบว์ สเตเดี้ยม
"จากพี่ชาย เขาพาไปดูบอล แล้วพี่ชายทั้งสองคน ชอบเล่นบอลเหมือนกัน ชอบพาไปดูบอล พาไปเตะบอล และพอได้ไปดู ด้วยความเป็นลูกผู้ชาย มันก็ชอบ เลยตามพี่มาตลอด"
คงจะไม่ต่างกับเด็กผู้ชายทั่วไป ที่ ด.ช.นินูรุดดีน ในเวลานั้น จะได้รับอิทธิพลกีฬาลูกหนังจากพี่น้องในครอบครัว และกลายเป็นกีฬาที่ชอบไปโดยปริยาย และเช่นกัน เขาเลือกเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใครๆ อยากจะเล่น
แต่จะด้วยโชคชะตา หรือความบังเอิญที่โอกาสการเป็นผู้รักษาประตูมาถึง ทำให้ ด.ช.นินูรุดดีน ตัดสินใจคว้ามัน และกลายเป็นเส้นทางชีวิตของเขานับแต่นั้นมา
"พอช่วงสัก 14-15 มันจะมีฟุตบอลกีฬาแห่งชาติ และได้เข้ามาคัดของจังหวัด โค้ชในตอนนั้นคือ นิแมร์ นิเดร์หะ แกดูแล แล้วทีนี้ ประตูทีมมันขาด เพราะตอนนั้น ประตูตัวจริง เขามีปัญหาในเรื่องของการเดินทาง ทีมเลยเหลือประตูคนเดียว แกเห็นแววตอนเราเล่นกับเพื่อน เลยถูกจับซ้อมเป็นประตู และเปลี่ยนเป็นผู้รักษาประตูในตอนนั้น"
"มันท้าทายดี ความรู้สึกเวลารับบอล เวลาได้พุ่งได้อะไร มันรู้สึกชอบ แล้วพอชอบแล้วมันติด มันเหมือนกับว่า พรสวรรค์เราพอมี เราเลยตัดสินใจเอาดีทางนี้ไปเลย"
แม้ว่าเขาจะไม่เคยผ่านการเป็นนักเรียนในโรงเรียนกีฬา แต่ด้วยใจหัวใจที่รักและชอบ ทำให้ฝีไม้ลายมือการป้องกันประตูพัฒนาขึ้นจนกลายเป็นใบเบิกทางสู่เมืองกรุง ในฐานะ "นักฟุตบอล"
"ช่วงนั้น รู้สึกว่ามันจะมีบอลรายการ พานาโซนิกฯ(เยาวชนควีนส์คัพ) มันหลายปีแล้วซึ่งโค้ชนิแมร์ แกบอกให้ไป ให้ที่อยู่ และจะมีเพื่อนที่กรุงเทพฯ พาไปคัดดู"
จากคำชวนของโค้ชนิแมร์ น้าชาย ฝากฝังนายทวารหนุ่มกระทง เข้าสู่เมืองหลวงอย่างจริงจังในฐานะนักฟุตบอล โดยมี ทีม "ฮัลโหล" องค์การโทรศัพท์ฯ (ทีโอที เอสซี) เป็นประตูสู่ลูกหนังอาชีพ โดยมี "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธุ์ วงษ์สุวรรณ เป็นกุนซือใหญ่
"ตอนที่ไป ตอนนั้นเขาปิดคัดไปแล้ว แต่โค้ชของทีโอที แกถามว่าทำไมเพิ่งมา เขาคัดกันเสร็จแล้ว แต่แกถามว่ามาจากไหน ผมเลยบอกว่ามาจากปัตตานี แกว่ามาไกลจัง และให้ไปซ้อม เพราะตอนนั้น ประตูในทีมเขาจะเอา 4 คนแล้วจะเลือกอีกที พอไปซ้อมอาทิตย์หนึ่ง ทางทีมงานโค้ช เขาบอกว่าอยู่ต่ออีกอาทิตย์หนึ่ง ชื่ออยู่ 1 ใน 3 ผมอยู่จนคัดตัวเสร็จ แล้วคัดเอา 2 คน เราเลยได้เล่นรายการนั้นไปเลย"
ผลงานกับทัพฮัลโหลในรายการนั้น เจ้ามิง ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จนเข้าตา “โค้ชก๊อก” ดึงตัวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่รวมกับเพื่อนร่วมรุ่นที่มีชื่อว่า สุเชาว์ นุชนุ่ม
แต่ว่าจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ "มิง" เกือบไปไม่ถึงดวงดาว และต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอีกหลายปีจนได้ชื่อว่าเป็น "ผู้รักษาประตูระดับไทยลีก"
"พอเราเล่นบอลพานาโซนิกฯ ให้ ทีโอที โค้ชก็อก แกดึงจากชุดนั้นมา 5 คน มีสุเชาว์, ผม และเพื่อนอีก 2-3 คน และพอได้ขึ้นชุดใหญ่ ปรีซีซั่น มันก็มีอุบัติเหตุ มันเหมือนจังหวะชีวิตตอนนั้น ผมโดนรถชน ข้ามถนน มันเป็นอุบัติเหตุ รถมันมาแล้วหลบไม่ทัน ตอนนั้นมันโดนช่วงเข่า ทำให้ต้องรักษาตัวอยู่นาน"
อุบัติเหตุรถเฉี่ยวตัวเขาในเวลานั้น ส่งผลถึงอนาคตในถิ่น ทีโอที ที่ถึงแม้ว่าจะได้โอกาสขึ้นชุดใหญ่ แต่อาการที่ยังไม่หายเจ็บโดยสมบูรณ์ ทำให้ ทีโอที ในเวลานั้น ไม่คอยเขาอีกต่อไป นินูรุดดีน ตัดสินใจหันหลังให้ถุงมือ และเสาประตู กลับไปทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยะรัง
แต่ดูเหมือนว่า ฟุตบอล จะยังคงวนเวียนกับตัวเขา แม้ยามหันหลังไม่หวนกลับ ด้วยตัวองค์กร พยายามส่งทีมฟุตบอลเข้าแข่งขันในท้องถิ่น จนกระทั่ง อ.บุญเลิศ เอี่ยวเจริญ กุนซือสงขลา เอฟซี ไปเห็นฟอร์มเข้า จึงทาบทามให้เขาหวนกลับมาใส่ถุงมือเฝ้าเสาอีกครั้ง
"แต่พอทำงานไป ที่ รพ.ยะหริ่ง เขาส่งรายการฟุตบอลล่ารางวัลในพื้นที่ เราก็เดินสายเล่นไปเรื่อยๆ แล้วจะมีจังหวะที่ทาง สงขลา อ.บุญเลิศ เอี่ยวเจริญ แกชวนให้มาเล่น แต่ตอนนั้นผมบอกไปว่า ผมทำงานอยู่ อาจจะไม่ค่อยมีเวลา แต่ อ. บอกว่ามาซ้อมก่อน พอเราไปซ้อม ทางสงขลาเขาโอเค และบอกให้หาเวลาหน่อยได้ไหม"
การกลับมาเฝ้าเสาให้ สงขลา เอฟซี เจ้าตัว ถือเป็นกำลังหลักของทัพวัวชนแดนใต้ แม้ว่าจะต้องไป-กลับ กว่า 1 ชั่วโมงจากปัตตานี-สงขลา
"ตอนนั้น เรื่องค่าใช้จ่าย รายละเอียดมันไม่ได้สูงเหมือนระยะหลัง แต่มันคือความชอบ ความอยากเล่นด้วย ตอนนั้นเราอายุ 22-23 มันเลยยังมีไฟ"
แต่ด้วยเรื่องของการเดินทาง และโอกาสการลงสนามที่ทำให้เขาตัดสินใจอำลาทีมเพื่อกลับไปเล่นในบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง ยะลา เอฟซี และกลับมาเล่นให้ ปัตตานี เอฟซี หนแรกในปี 2011 พร้อมกับพาทีมจบด้วยรองแชมป์ดิวิชั่น 2 โซนภาคใต้อีกด้วย
ฟอร์มดังกล่าว กลายเป็นจุดที่ทำให้เขา ย้ายไปเล่นกับ ภูเก็ต เอฟซี พร้อมๆ กับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพแบบเต็มตัว และตัดสินใจถอดชุดเจ้าหน้าที่พยาบาลและไม่หันหลังกลับไปอีก
ในช่วงเลกสอง ของฤดูกาล 2014 ขณะที่ นินูรุดดีน กำลังจะกลับไปเล่นที่บ้านเกิดอีกครั้ง ปลายสายของทาง สงขลา ยูไนเต็ด ที่ขณะนั้นกำลังเล่นในไทยลีก ดังขึ้นพร้อมกับชวนตัวเขาไปร่วมงาน
"เล่นไทยลีกนัดแรก (เยือน ทีโอที เอสซี) มันรู้สึกตืนเต้น เป็นจังหวะชีวิตมันใช่ มันแปปเดียว เราคิดประมาณนี้ แล้วเราพยายาม โอกาสมันมาของมันเอง มันพอดี ตอนนั้นมันรู้สึกว่าที่ดีสุดของการได้เล่นฟุตบอล ทั้งบรรยากาศตอนนั้นมันโอเคทุกอย่าง ดีใจ ดีใจมาก"
8 เกมที่ลงสนาม แม้มิอาจช่วยทีมให้รอดพ้นการตกชั้น แต่สำหรับตัวเขา นี่คือช่วงเวลาที่ได้พิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่ และลบล้างปมในใจในวันที่เขาเกือบไม่ได้เล่นฟุตบอลอาชีพบนลีกสูงสุดเมื่อ 11 ปีก่อนได้สำเร็จ
แต่ช่วงเวลาจากนั้น มีการเปลี่ยนแปลงจนทำให้เขาตัดสินใจตาม อ.พยงค์ ขุนเณร ไปร่วมงานที่ นครปฐม ยูไนเต็ด ก่อนที่ในเวลาต่อมา เขาตัดสินใจมุ่งหน้ากลับสู่บ้านเกิดอีกครั้ง กับทั้ง นรา ยูไนเต็ด และปัตตานี เอฟซี
"ตอนนั้น มันหลายๆ อย่าง ด้วยจังหวะ ทำให้ตัดสินใจกลับมาอยู่บ้าน กลับมาอยู่กับครอบครัว และอายุด้วย ฝีมือด้วยว่า เราคงพอแล้ว โอเคแล้ว ทำให้หลังกลับจาก นครปฐม เราไปเล่น นรา 1 ปี แล้วกลับมาเล่นให้ปัตตานี"
ระยะเวลากว่า 5 ปีระหว่าง นินูรุดดีน กับ ปัตตานี เขาลงสนามให้ทัพ “ปืนใหญ่ลังกาสุกะ” ไม่น้อยกว่า 100 นัด ตลอดทุกช่วงที่เขาได้ลงเล่นให้ทีมนี้ ทีมมีโอกาสทั้งเลื่อนชั้นจากไทยลีก 4 สู่ไทยลีก 3 หวิดเข้าสู่รอบแชมเปี้ยนส์ลีก และทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่ง นินูรุดดีน มองว่าเป็นไปในแนวทางที่ดีของทีมและหวังจะพาทีมเข้าสู่รอบแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้เสียที
"ถ้าพูดถึง ปัตตานี ทีมเราโอเคทุกปี เรื่องของบรรยากาศ การทำทีม เราเองหวังอยากขึ้นทุกปี แม้ว่าจะติดขัดอยู่บ้าง แต่นั่นแหละคือฟุตบอล"
"เราคิดว่าเราจะเต็มที่กับทุกปี ไม่ได้คิดว่าปีไหนจะเลิก ปีไหนจะไม่อยากเล่น เราเต็มที่ทุกปี ถ้าเรายังไหว และได้ไปต่อ เราต้องรักษาสภาพร่างกาย คุมน้ำหนัก อาหารการกิน วินัยของเรา และปีนี้เราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อพาทีมติดไปในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก เราเอาตรงนี้เอาเป้าหมายตรงนี้ให้เต็มที่ดีที่สุด" สไปเดอร์มิง กล่าวในส่วนนี้
บนเส้นทางของ นินูรุดดีน นิเดร์หะ ผ่านบททดสอบมาอย่างมากมาย ซึ่งสร้างให้เขา กลายเป็นปราการที่แข็งแกร่งบนปากประตู ที่พร้อมจะเป็นสายธารที่นำความสุขมาฝากแฟนบอลปัตตานี เอฟซีให้ได้ในปีนี้