20 Oct 2019
จากลีกภูมิภาคสู่ทีมชาติชุดใหญ่ : เปิดโปรไฟล์ ช้างศึก ชุดปัจจุบัน ที่เคยเล่นลีกล่างมาก่อน
![]( /media/article/preview_images/20191020-052433-5ac5ffff-1bb0-48d4-ab28-f91d68882af2.jpg )
เกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่มจี นัดที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทีมอันดับ 66 ของโลก ซึ่งเป็นทีมจากโถ 1 ในกลุ่ม ไปด้วยสกอร์ 2-1 ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนบอลมากมาย
โดยเฉพาะในเรื่องที่ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทัพช้างศึก กล้าที่จะให้โอกาสดาวรุ่งลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้ ไม่ว่าจะเป็น สุภโชค สารชาติ, ศศลักษณ์ ไหประโคน รวมถึงพระเอกในเกมนี้อย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา และพวกเขาก็ตอบแทนความไว้ใจของโค้ชชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
แต่แน่นอนว่า นักเตะเหล่านี้จะไม่มีโอกาสติดทีมชาติเลย หากต้นสังกัดไม่มอบโอกาสลงสนามให้พวกเขา อย่างไรก็ตาม นักเตะเหล่านี้ก็ใช่ว่าจะได้รับความมั่นใจให้ลงเล่นเป็นแกนหลักทันที และนั่นก็ทำให้บรรดานักเตะดาวรุ่ง ต้องไปพิสูจน์ตัวเองจากการลงสนามในลีกล่างของไทยมาก่อน ซึ่งจะทำให้บรรดาแข้งเยาวชนได้มีโอกาสลงสนามมากขึ้น
และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ลีกภูมิภาค จำเป็นจะต้องเป็นเวทีแรก เป็นก้าวแรกสู่สังเวียน ในการให้โอกาสดาวรุ่ง ลงแสดงฝีเท้า ที่หวังจะเห็นนักเตะเยาวชนชาวไทย ได้มีเวทีโชว์ศักยภาพฝีเท้าของตัวเอง ซึ่งการแข่งขัน ออมสิน ลีก โปร (ไทยลีก 3) และ ออมสิน ลีก (ไทยลีก 4) ให้ส่งผู้เล่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงเป็นตัวจริงอย่างน้อย 1 คน และ ผู้เล่นอายุไม่เกิน 21 ปี เป็นตัวจริงอย่างน้อย 2 คน ขณะที่ทีม บี จะต้องส่งผู้เล่น U21 3 คน และ U23 5 คน เป็นตัวจริง ซึ่งนี่ก็ถือเป็นส่วนที่ช่วยให้บรรดานักเตะเยาวชนหลายคน ได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอ
ซึ่งหากเราดูจากรายชื่อ 23 นักเตะทีมชาติไทยชุดล่าสุดนี้แล้ว ก็พบว่า มีนักเตะหลายคนที่เคยผ่านการลงสนามในระดับภูมิภาคมาก่อน
ธีรศิลป์ แดงดา
อดีตกองหน้าอัลเมเรีย และซานเฟรชเช ฮิโรชิมา เคยมีประสบการณ์ค้าแข้งในดิวิชั่น 2 มาก่อนกับ ราชประชา ในปี 2007 และ 2008 ก่อนจะก้าวมาเป็นตำนานของ “กิเลนผยอง” ในปัจจุบัน
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
นายด่านโอเอช ลูเวิน เคยเฝ้าเสาให้กับ ราชประชา สมัยเป็นดาวรุ่งเมื่อฤดูกาล 2006-2007 และคว้าแชมป์ถ้วย ข กับทีมตราชฎาด้วย
สารัช อยู่เย็น
มิดฟิลด์ตัวขับเคลื่อนเกมของทัพช้างศึก โดยเจ้าตัวนั้นเคยมีดีกรีเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี มหาอำนาจลูกหนังขาสั้นของเมืองไทย ก่อนจะได้เซ็นสัญญาเข้าไปเป็นนักเตะเยาวชนของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ‘ตัง’ ก็ยังคงลงเล่นให้กับกิเลนผยองมาจนปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม สารัชเองก็เคยผ่านการลงเล่นในลีกระดับล่างมาแล้ว โดยเจ้าตัวเคยถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับ เอฟซี ภูเก็ต ในลีกล่างมาก่อน รวมถึงนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ก่อนจะกลับมาเป็นตัวหลักให้กับเอสซีจี เมืองทอง จนถึงปัจจุบัน
![สารัช อยู่เย็น](/media/images/12971046_981977438522360_2633158540034029081_o.width-500.jpg)
ธีราทร บุญมาทัน
แบ็คซ้ายทีมชาติไทย เป็นนักเตะอีกราย ที่เคยค้าแข้งในดิวิชั่น 2 กับราชประชา ก่อนจะย้ายไปอยู่กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในปีต่อมา
สุภโชค สารชาติ
กองกลางตัวเก่งของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เคยถูกส่งไปหาประสบการณ์แบบยืมตัวกับ สุรินทร์ ซิตี้ ทีมในดิวิชั่น 2 ในปี 2015 ก่อนจะกลับมาเป็นตัวหลักของ “ปราสาทสายฟ้า” ในเวลาต่อมา
ธนบูรณ์ เกษารัตน์
เจ้าของฉายา “บุสเก็ตส์เมืองไทย” เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ บางกอก เอฟซี ในปี 2011 และยังเคยเล่นในดิวิชั่น 2 ให้กับสโมสรฟุตบอลอาร์แบค แบบยืมตัว เมื่อปี 2012 สมัยที่ยังเป็นดาวรุ่งของบีอีซี เทโรศาสน ก่อนจะกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงของ “มังกรโล่เงิน” และกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดของไทยลีก เมื่อครั้งย้ายจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปอยู่กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
![ธนบูรณ์ เกษารัตน์.jpg](/media/images/18664594_1960217280891012_3644635051962093345_.width-500.jpg)
ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
หนึ่งในผลผลิตอันภาคภูมิใจของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเจ้าตัวเคยลงเล่นให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุด บี ในไทยลีก 4 ก่อนจะได้ลงประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ของ “ปราสาทสายฟ้า” ด้วยวัยเพียง 15 ปี 8 เดือน 22 วัน ทำลายสถิติเก่าใน โตโยต้า ไทยลีก ของ เอกนิษฐ์ ปัญญา ของสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2015 (15 ปี 11 เดือน 5 วัน)
พรรษา เหมวิบูลย์
ปราการหลังสุดแกร่งของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รายนี้ เล่นฟุตบอลตั้งแต่สมัยเยาวชน โดยเจ้าตัวเคยเป็นนักเตะของ ‘ชงโคม่วงทอง’ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ก่อนจะลงเล่นฟุตบอลอาชีพในลีกล่างให้กับหลายๆ ทีม ไม่ว่าจะเป็น จามจุรี ยูไนเต็ด, ขอนแก่น ยูไนเต็ด, ทีโอที เอสซี ในลีกระดับล่างมาแล้ว ก่อนจะได้ย้ายมาอยู่กับทัพปราสาทสายฟ้า และกลายมาเป็น 1 ในปราการหลังที่ดีที่สุดในเมืองไทยในปัจจุบัน
ศิวกรณ์ เตียตระกูล
‘เจ้าเฟย’ นั้นถือเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ตั้งแต่ยังเป็นเยาวชน เขาเคยเป็นเยาวชนในอคาเดมี่ของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และเคยลงเล่นให้กับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ในรายการจตุรมิตรสามัคคี การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของประเทศไทยมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกกับทัพกิเลนผยอง เจ้าตัวไม่มีโอกาสลงสนามมากนัก ทำให้ต้องย้ายไปเล่นในแบบยืมตัวกับ นครนายก เอฟซี, ลูกอีสาน เอฟซี, ศุลกากร ยูไนเต็ด และ พัทยา ยูไนเต็ด (สมุทรปราการ ซิตี้ ในปัจจุบัน) ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมบีอีซี เทโร (โปลิศ เทโร ในปัจจุบัน) และมาอยู่กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน
บดินทร์ ผาลา
สำหรับ บดินทร์ นั้น เจ้าตัวเริ่มต้นจากการเป็นนักฟุตซอล ก่อนจะเปลี่ยนใจมาเล่นฟุตบอล และได้ลงเล่นให้กับ บีจีซี เอฟซี ทีมในลีกระดับล่างเป็นทีมแรก ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาตัวเอง จนกลายมาเป็นนักเตะคนสำคัญของ การท่าเรือ เอฟซี ในปัจจุบัน
เอกนิษฐ์ ปัญญา
ส่วนพระเอกของทีมชาติไทยในเกมล่าสุดกับ ยูเออี นั้น หลายคนอาจทราบแล้วว่า เขาเคยถูก เชียงใหม่ เอฟซี ยืมตัวไป และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทัพพยัคฆ์ล้านนา ได้ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดของเมืองไทยเป็นครั้งแรกในปีนี้ ก่อนจะก้าวมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ที่พากว่างโซ้งมหาภัย ลุ้นแชมป์ไทยลีกสมัยแรกในตอนนี้
![เอกนิษฐ์ ปัญญา.jpg](/media/images/47680944_10157933130964863_3846333278755749888.width-500.jpg)
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ ‘บุ๊ค’ จะก้าวมาถึงจุดนี้ เจ้าตัวก็เคยลงเล่นในลีกระดับล่างมาแล้ว โดยเคยไปเล่นให้กับ เชียงราย ซิตี้ ทีมในไทยลีก 3 มาในช่วงปี 2017
ดังนั้น ลีกในระดับล่างถือเป็นเวทีสำคัญ ที่จะใช้พัฒนาวงการฟุตบอลไทยได้ในอนาคต เพราะเป็นเวทีที่สามารถให้ดาวรุ่งได้โชว์ผลงานอย่างเต็มที่ ตามนโยบายของสมาคมฯ ที่ต้องการพื้นที่ให้บรรดาดาวรุ่งในแสดงศักยภาพออกมา ซึ่งในอนาคต เราอาจจะได้เห็นดาวรุ่งจากไทยลีก 3 และ 4 พัฒนาตัวเองขึ้นมา จนกลายเป็น ธีรศิลป์ แดงดา หรือ เอกนิษฐ์ ปัญญา คนใหม่ ให้กับทีมชาติไทยในอนาคตก็เป็นได้