สตาร์ภูธร : "เมื่อถึงครา นำพารุ่นน้อง" ดัสกร ทองเหลา (กาญจนบุรี ซิตี้)

บนถนนนักฟุตบอลอาชีพตลอด 24 ปี แพสชั่น ความกระตือรือร้นในสนาม และความเป็นผู้นำ ยังไม่เคยจางหายในตัวเขาบนวัย 39 ปี วัยที่นักฟุตบอลน้อยคน จะรักษาสภาพร่างกายและยืนระยะบนสนามฟุตบอลที่ต้องใช้พลังงานสูง

กับเส้นทางของ "ดัสกร ทองเหลา" กองกลางจอมทัพแห่ง กาญจนบุรี ซิตี้ น้องใหม่ของศึกไทยลีก 3 โซนภาคตะวันตก ไม่ต่างอะไรกับสายน้ำที่ไหลผ่านของแม่น้ำแควใหญ่ ที่ผ่านอุปสรรคอันคดเขี้ยว และคำดูถูกนานัปการ ก่อนจะพิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในตำนานลูกหนังไทยอีกหนึ่งคน

-

บทชีวิตของ "เจ้าโก้" เริ่มต้นขึ้นที่ อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี และเหมือนกับลูกอีสานทั่วไป ที่รักการเล่นกีฬากับเพื่อนๆ เขาผ่านการเล่นกีฬาหลายชนิด ทั้ง วอลเล่ย์บอล, กรีฑา และ ฟุตบอล แต่ด้วย ฟุตบอล คือสิ่งหนึ่งที่เขาได้ดูจนซึมซับความชอบ จุดนี้เองทำให้ ด.ช.ดัสกร เด็กบ้านนอกจาก หนองบัวลำภู ชอบในกีฬาฟุตบอลและเล่นเป็นกีฬาหลักอย่างต่อเนื่อง โดยมี "ลูกทัพฟ้า" ทหารอากาศ ในยุคมีดาราดังอยาง ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เป็นทีมรักในดวงใจ

แต่ฟุตบอลไทยในเวลานั้น ยังไม่อาจมองเป็นเรื่องที่จริงจังมากนัก นี่เองทำให้ ดัสกร ตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวง ด้วยเป้าหมายคือการไปเรียนหนังสือและทำงานกลับบ้าน โดยพักอาศัยด้วยการเป็น "เด็กวัด" อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง และมีโอกาสเล่นฟุตบอลนักเรียน กับ โรงเรียนวัดสระเกศ จนฝีเท้าเข้าตาทีมสโมสรการประปานครหลวง ในเวลานั้นจับมาฝึกฝนจริงๆ จังๆ ควบคู่กับการหาเลี้ยงด้วยการเล่นฟุตบอลเดินสายในรุ่นผู้ใหญ่ ด้วยวัยเพียง 12 ขวบเท่านั้น

ก่อนที่ในเวลาต่อมาทาง โรงเรียนปทุมคงคา จะมอบทุนให้เขา เข้าเรียน ม.3 ในช่วงกลางเทอม ซึ่งน้อยคนนักจะได้รับสิทธิ์นี้ และแน่นอนว่า เจ้าโก้ ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อเขาโชว์ฟอร์มเก่งอย่างต่อเนื่องในการเล่นฟุตบอลนักเรียน จนเข้าตา อ.พยงค์ ขุนเณร สตาฟฟ์โค้ชทีมนักเรียนไทยในเวลานั้น และยังเป็นกุนซือของ "สำเภาม่วง-ฟ้า" พณิชยการราชดำเนิน ทาบทามไปร่วมทีม และเป็นครั้งแรกที่เขาถูกปรับตำแหน่งจากการเป็น กองหน้า มาสู่กองกลางตัวรุก ตำแหน่งที่แจ้งเกิดตัวเขาจนถึงวันนี้

-

ในช่วงชีวิตใต้ชายคา สำเภาม่วง-ฟ้า เขาโกยแชมป์อย่างต่อเนื่องในหลายรายการ ทั้งฟุตบอลนักเรียนชิงถ้วยของกองทัพอากาศ, ฟุตบอลนักเรียน กรมพลศึกษา และมีโอกาสได้ขึ้นมาเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับ "ตราชฎา" สโมสรราชประชา ในวันที่ร่วมมือกับทาง พณิชยการราชดำเนิน ในการพัฒนาและส่งผู้เล่นลงแข่งขันในระดับอาชีพ ดัสกร ในวัย 17 ปี ถูกส่งชื่อลงแข่งขันในระดับดิวิชั่น 1 และเริ่มฉายแววยอกแข้งทอง ก่อนที่เจ้าตัวจะเล่นให้ จ.ชัยนาท และพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลไทยแลนด์ คัพ ครั้งสุดท้ายในปี 1999

กระทั่งการติดทีมนักเรียนไทย ชุดชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 28 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ดัสกร และผองเพื่อนต่างฟันฝ่า จนพาทีมนักเรียนไทย เถลิงแชมป์ และนี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขา ถูก "มิสเตอร์โอเค" องอาจ ก่อสินค้า ผจก.บีอีซี เทโร ศาสน ดึงตัวไปร่วมทีม และกลายเป็นตำนานของทัพมังกรไฟ กับความสำเร็จตลอด 6 ปีที่ผ่านมา รองแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2002/03, ไทยลีก 1 สมัย, ถ้วยพระราชทาน ก 1 สมัย และมีโอกาสไปทดสอบฝีเท้ากับ "ปีศาจแดง" ไกเซอร์สเลาเทิร์น ทีมแกร่งจากเยอรมนี รวมไปถึงลัดฟ้าในฐานะ "แข้งไทยในเมืองญวน" กับ ฮอง อัน ยา ลาย ถึง 3 ปี และกลับมาโกยความสำเร็จในวันที่ฟุตบอลไทย กลับมาบูมสุดขีดกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด กับแชมป์ไทยลีก 3 สมัย, ถ้วยพระราชทาน ก 1 สมัย และ ลีก คัพ 1 สมัย

ขณะที่ทีมชาติไทย ดาวเตะสมญานาม "เด็กนรก" รายนี้ โตกับความสำเร็จอย่างแท้จริงในฐานะ จ้าวซีเกมส์ 2 สมัย และอันดับ 4 เอเชี่ยนเกมส์ ที่ปูซาน, เกาหลีใต้ในปี 2002 รวมไปถึงเป็นอีก 1 แข้งที่รับใช้ทีมชาติไทยครบ 100 นัด ตามรอย ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, ธชตวัน ศรีปาน, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และรุ่นน้องในทีมชาติอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา

แต่ขึ้นชื่อว่า "ชีวิต" สังขาร ย่อมมีวันร่วงโรย...

-

ระยะหลังๆ เราได้เห็น เจ้าโก้ ลงไปเล่นลีกล่างทั้งในระดับไทยลีก 2 กับ อุดรธานี เอฟซี และ อยุธยา ยูไนเต็ด รวมไปถึงระดับไทยลีก 3 กับ สีหมอก เอฟซี และล่าสุดกับ อุทัยธานี เอฟซี ตามรอยลูกพี่เก่าอย่าง เทิดศักดิ์ ใจมั่น และเป็นกำลังสำคัญ ในการพาทัพช้างป่าห้วยขาแข้งเป็นแชมป์ไทยลีก 3 ได้สำเร็จ

แต่อุบัติเหตุการแยกทางของ อุทัยธานี เอฟซี ก่อนเปิดซีซั่น 2022/23 ส่งผลให้ความฝันของเขาพังทลาย แม้ไม่ถึงกับอับจนหนทาง เพราะเจ้าตัว หาลู่ทางทั้งเป็นอะคาเดมี่ และเป็น "เซียนพระ" แต่กลิ่นสาบลูกหนัง และกำลังวังชาของเขายังพอไหวในการเล่นไทยลีก 3 นี่เองจึงตบปากรับคำชวนของ สุเชาว์ นุชนุ่ม เพื่อนร่วมทีมชาติไทย ไปช่วย กาญจนบุรี ซิตี้ น้องใหม่ของโซนตะวันตก

บนวัย 39 ปี แม้จะไม่คล่องแคล่วเหมือนดังวันวาน แต่เซนส์บอลและความเก๋า ยังคงเป็นเชื่อขนมกินได้ จากการลงสนามไปถึง 13 เกม และเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ ถึง 2 ครั้ง ในฤดูกาลนี้ และพาทีมติดลมบนในพื้นที่หัวตาราง ณ เวลานี้ รวมไปถึงช่วยต่อยอดให้แข้งเยาวชนในทีมหลายคนยึดเป็นแรงบันดาลใจและเรียนในการดูแลรักษาสภาพร่างกายและทักษะฟุตบอลชั้นสูง ในการเรียนรู้การเล่นเพื่อพัฒนาต่อไป

แม้การมาอยู่กับทัพเสือดำเมืองกาญจน์ จะไม่ใช่ทีมที่เน้นทุ่มทุนสร้างเพื่อเป้าหมายในการเลื่อนชั้น แต่การที่เข้ามาอยู่ที่นี่ ในมุมหนึ่ง คือการจุดไฟในตัวของ ดัสกร ทองเหลา ในการพิสูจน์ตัวเองบนเวทีฟุตบอลอาชีพ พร้อมๆ กับส่งมอบแรงบันดาลใจ ให้เด็กๆ เยาวชนในพื้นที่ ได้ต่อยอดเติบโตบนสายธารลูกหนังไทย ให้ไม่เหือดแห้งและไหลเชี่ยวจนชั่วกัลปาวสาน