หงส์น้อยผู้โบยบินสู่ดวงดาว : พงศกร สังขโสภา (หัวหิน ซิตี้)

ในบรรดาแข้ง "ช้างศึกยังเติร์ก" ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ชุดทำศึกชิงแชมป์เอเชีย หนล่าสุด (2023) ในบรรดา 23 คน มีเพียงผู้เล่นเพียง 2 ราย ที่ได้ประเดิมลงสนามในฟุตบอลลีกอาชีพแล้ว ในฤดูกาล 2022/23

หนึ่งในนั้นคือกำลังหลักสำคัญของทัพ "เรือใบสีขาว" หัวหิน ซิตี้ ทีมจากโซนภาคตะวันตก ทีมที่อยู่ห่างจากบ้านเกิดของเขากว่า 427 กิโลเมตร

แต่บนวัยเพียง 16 ปี เขาสถาปนากลายเป็นกำลังหลักคนสำคัญพาทีมๆ นี้ จบอันดับ 3 ของตาราง ในฐานะกองกลางจอมทัพ ก่อนจะกลายเป็นปีกซ้ายขวัญใจวัยรุ่นในสีเสื้อทีมชาติไทย

บนบทชีวิตของ "อีริค" พงศกร สังขโสภา เขาผ่านอะไรมาบ้าง กว่าจะเป็น "หงส์น้อย" ที่รอโบยบินสู่ "ดวงดาว"

-----

จุดเริ่มต้นของ เอริค อยู่ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ในแหล่งชุมชนคนมอญ โดยมีคุณพ่อสมเดช สังขโสภา อดีตแข้งธำรงไทยสโมสร เป็นคนชวนไปเตะฟุตบอลจนเขาซึมซับโดยไม่รู้ตัว

"เริ่มต้นก็คุณพ่อ พาไปเตะครับ พ่อพาไปเล่นฟุตบอลในชุมชน ตอนนั้นมันจะมีสนามฟุตซอลและมีพวกผู้ใหญ่เตะกัน พ่อก็พาไปเล่นข้างสนาม"

แต่ใครเลยจะรู้ว่าตำแหน่งแรกของเจ้าตัวในการเริ่มหัดเล่นฟุตบอลจริงจัง คือการเป็น "ผู้รักษาประตู" ด้วยธรรมเนียมว่าน้องใหม่ใครเข้ามาต้องโดนยิง(ประตู)ก่อน แต่อีริคเอง ฉายแววฝีเท้าบนสนามฟุตซอลในชุมชน จน คุณพ่อสมเดช ตัดสินใจพาลูกชายเข้าสู่เมืองหลวง ฝึกฟุตบอลกับอะคาเดมี่ของธำรงไทยสโมสร ก่อนจะผ่านการตัดตัวเข้าสู่รั้ว ร.ร.กีฬากรุงเทพมหานคร

ในรั้วเขียว-ขาว เขาโดนโยกมาเล่นเอาท์ฟิลด์มากขึ้น และสร้างชื่อด้วยการเป็นรองแชมป์ฟุตบอลช้าง จูเนียร์ คัพ โซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยวัยเพียง 10 ขวบ ที่ต้องเล่นแบกอายุร่วมกับบรรดาพี่วัย 12-13 ปี ทว่า ด้วยโอกาสการลงสนามที่ไม่มากนัก ประกอบกับสรีระที่ไม่สูงใหญ่ ทำให้เขาต้องเริ่มตัดสินใจ

กระทั่งเข้าสู่ชั้นมัธยมต้น เขาย้ายไปเล่นกับ สโมสรบางกะปิ และฝึกฟุตบอลต่อเนื่องกันไป กระทั่งจุดเปลี่ยนแรกก็มาถึง....

-

วันหนึ่ง เขานำ สโมสรบางกะปิ พบกับทีม อะคาเดมี่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เกาะสมุย ที่มี โรเบิร์ต โปรคูเลอร์ ผอ.ราชบุรี เอฟซี เป็น ผอ.อะคาเดมี่ อีริค โชว์ฝีเท้าเป็นที่ติดตราตรึงใจจน อับดุล คูลิบาลี อดีตนักเตะเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นเฮดโค้ชของทีม ไม่รอช้าทาบทามเข้ามาร่วมชายคา

"ตอนนั้น อีริค เป็นนักเตะที่ตัวเล็กมาก แต่สิ่งที่เขาแสดงให้เห็น นอกจาก ทักษะ เบสิคที่ดีแล้ว คือความมุ่งมั่น และมีวินัยในสนาม คนเป็นโค้ชทุกคนรู้ดีว่า ร่างกาย, เบสิค ทุกอย่างมันสร้างได้ แต่ความมุ่งมั่น และวินัย เป็นสิ่งที่สร้างได้ยากมาก มันคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราตัดสินใจดึงตัวเด็กคนนี้ไปเล่นกับอคาเดมีที่สมุย" อับดุล เผยผ่านเพจช้างศึก

ช่วงเวลาหลังจากนั้น "อีริค" ได้ใช้ชีวิตกินอยู่หลับนอน และซ้อมฟุตบอลเพียงอย่างเดียว ตลอดช่วงเวลา 2 ปี บนเกาะสมุย โดยที่ไม่ได้มีเกมการแข่งขันเลยแม้แต่เกมเดียว ซึ่งยอมรับว่า "แอบยาก" เพราะต้องปรับตัวและต้องซ้อมตลอดบนเกาะสมุย

"ตอนที่ไปฝึก มันมีความเป็นมืออาชีพ มันยากขึ้นอีกระดับหนึ่ง มันยากขึ้นมาก ต้องปรับตัวหลายๆ อย่างเลย เพราะตอนนั้นเขาซ้อมอย่างเดียวเลย เก็บตัวซ้อมประมาณ 2 ปี ตอนนั้นซ้อมอย่างเดียว เราก็อยากออกไปโชว์ ออกไปให้คนอื่นเห็น แต่ยอมรับว่ามันแตกต่างจากตอนแรก เพราะที่นั่นบ่มใหม่ทุกอย่าง ทั้งเบสิค, เทคนิค มันใหม่ทุกอย่าง แล้วพอมีทัวร์นาเมนต์ ทุกคนได้โชว์ศักยภาพที่ซ้อมมา"

จากวันแรกที่ฝึกฝีเท้า เขาใช้เวลาต่อสู้และผ่านความกดดันในช่วงต้น ก่อนที่โอกาสจะเข้ามาหาเข้าอีกครั้ง...

-

บนวัย 14 ปี คุณทำอะไรอยู่....

บางคนอาจจะกำลังเล่นเกมตามร้านเกม หรือเล่นฟุตบอล ปั่นจักรยานกับเพื่อน นั่งอ่านการ์ตูน หรือแอบครูหนีเรียน?

แต่สำหรับ อีริค เขาถูกลงทะเบียนลงเล่นฟุตบอลอาชีพก่อนใครเพื่อน กับ นนทบุรี ยูไนเต็ด จากการที่ อับดุล คูลิบาลี่ เป็นเฮดโค้ช เขาเองก็ไม่ลืมดึง "ลูกศิษย์" คนนี้ เข้ามาร่วมทีม ในปี 2021

แต่อาจจะด้วยยังเยาว์วัยนัก ขวบปีแรกของเขา เขาทำได้แค่ดูพี่ๆ ลงเล่นบนม้านั่งสำรอง แต่สำหรับตัวเขา นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ "ใจฟู" ที่สุดแล้วในการประเดิมชีวิตนักฟุตบอลอาชีพ

"ตอนนั้นแมตซ์แรกที่มีรายชื่อ ตื่นเต้นครับ ไปเยือนทหารบก พี่ๆ เขาก็ดี เขาก็บอกว่า อย่าเกร็ง มีโอกาส รับโอกาสไว้ก็ตั้งใจ เขาก็แนะนำ"

จากคำพูดของรุ่นพี่ในเกมวันนั้น เขาค่อยๆ เรียนรู้และซึมซับความเป็นลูกหนังอาชีพ ก่อนที่จะได้แจ้งเกิดเต็มตัวกับ "ทัพเรือใบสีขาว" ในซีซั่น 2022/23

"เกมแรกที่ลงสนาม วันนั้นเป็นเกมบอลรีโว่ ไปเยือนลพบุรี เกมแรกยิงได้ ตอนนั้นมันปลดปล่อย ไปดีใจ มันปลดปล่อยทุกอย่างทั้งความกดดัน ความตื่นเต้น อะไรที่แบกมา" อีริค เผยถึงความรู้สึกแรกหลังลงสนามและประเดิมสกอร์แรกในบนลีกอาชีพ

ผลงานของเขา ทำไป 3 ประตูจาก 20 เกม ในฐานะกองกลางที่สามารถเล่นได้ทั้งเกมรับ-เกมรุก และเซนเตอร์แบ็ก ปีแรกของเขาถือว่าไม่แย่เกินไปกับเด็กวัย 15 ย่าง 16 ปีเศษ

"ปีแรกก็ดีครับ ยังอยากเล่น ยังท้าทายใหม่ๆ อีก ได้ผจญภัยดี ยิ่งใน T3 จะมีทีมแบบเก๋าๆ มีกำลังรุ่งขึ้นมา ได้เก็บประสบการณ์ มันเลยทำให้ทุกคนอยากเล่น และสนุกด้วย"

และฟอร์มส่วนตัวที่เข้าขากับ "แพท" ชิษณุพงษ์ พิมพ์สังข์ ดาวซัลโวของทีมที่รู้ใจกัน ส่งผลให้เขาพัฒนาฟอร์มจนมีชื่อติดทีมชาติไทยชุด U17 ในยุคของ พิภพ อ่อนโม้ เป็นกุนซือ

และจุดเปลี่ยนของ อีริค เกิดขึ้นอีกครั้งก็ในรั้วทีมชาติไทย...

-

"ผมไม่ได้เซอร์ไพรส์หรือแปลกใจเลยนะที่เขาได้โอกาสติดทีมชาติไทย U17 เพราะหากมองจากสถิติ มีเด็กอายุ 16 ไม่กี่คนที่จะเล่นในระดับไทยลีก 3 และเป็นตัวหลักของสโมสร ลงไป 20 กว่านัด ผมเลยเชื่อเสมอว่าเขาจะได้โอกาสติดทีมชาติไทย รุ่น U17" อับดุล คูลิบาลี่

การติดทีมชาติไทย U17 ทำให้เขาได้เรียนรู้กับ อดีตกองหน้าระดับตำนานของไทยลีก และ โค้ชโม้ เห็นอะไรบางอย่างในตัวเขาและส่งเขาขยับไปเล่นเป็น "ปีกซ้าย"

"ทีแรก ตอนไปตอนแรกก็เล่นกลางนี่แหละครับ แต่มีวันหนึ่งไปซ้อมแล้วผู้ช่วยของพี่โม้ พี่เกิ้ล (รัฐธีร์ เอื้อธนไพศาล-ผู้ช่วยโค้ช) เขาเห็นอะไรสักอย่างแล้วบอกให้ไปลองซ้อมเป็นปีกซ้ายดู แล้ววันนั้นไปซ้อมดี หลังจากนั้นเลยให้เล่นปีกเลย"

จากการเล่นเป็นปีกซ้าย อีริค ได้รับคำชื่นชมจากบรรดาแฟนบอลชาวไทย ด้วยฝีเท้ากระชากลากเลื้อย และการจ่ายบอลที่เฉียบขาด กลายเป็นจุดเด่นและส่วนสำคัญที่พาทีมชาติไทย เข้าใกล้ตั๋วฟุตบอลโลก U17 เพียงเอื้อมมือแม้ว่าปลายทาง จะยังต้องรอคอยอีกครั้ง

-

"(ฝึกที่เบลเยียม) มันไม่ถึงกับแตกต่าง แต่มันมีดีเทล รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พวก สปีดบอล ร่างกาย แพสชั่นในตัวเขาที่อยากซ้อม อยากเล่นฟุตบอล มันเยอะมาก คนที่นั่นบ้าฟุตบอลมาก ทำให้ตอนซ้อมมันสนุกไปหมด มันมีแต่คนตั้งใจ มุ่งมั่น"

การได้ไปฝึกซ้อมที่เวสเธอร์โล่ ทีมในลีกเบลเยียม กลายเป็นแรงผลักดันที่พัฒนาฝีเท้าและความคิดให้เขาสู้ต่อในฤดูกาลใหม่ที่จะมาถึง เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อหวังไปสู่การเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ให้จงได้

"ปีหน้า เราต้องไปแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างเดียว เราไม่มีอะไรจะต้องคิดนอกจากนั้น และพอเราไปถึงแชมเปี้ยนส์ลีก ก็ต้องมาไปถึง T2 ถามว่ายากไหม สำหรับพวกผม ผมว่ามันเป็นอีกก้าวหนึ่งมากกว่าด้วย"

ขณะที่ครูของอีริค คูลิบาลี่ หวังจะเห็นลูกศิษย์คนนี้พัฒนาได้ไกล เพื่ออนาคตของตัวเขาเอง

"ผมมักจะบอกเขาเสมอว่า เส้นทางของเขายังอีกยาวไกล นี่เป็นเหมือนบันไดขั้นแรกๆ เท่านั้น เพราะผมเองอยากจะเห็นเขาได้ก้าวไปเล่นในระดับไทยลีก หรือก้าวไปติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ในอนาคต ในวันนี้ได้โอกาสแล้วก็ต้องพยายามพัฒนาตัวเองให้ได้ต่อเนื่องนะ อย่าหยุดหรือพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้ และผมเองก็หวังที่จะได้เห็นเขาเล่นในไทยลีก หรือทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในอนาคต"

-

บนผืนธงชาติมอญ หงส์ เชิดหน้า มองดูดวงดาวที่ไกลลิบ และหวังจะบินไปเอื้อมถึงเข้าสักวันหนึ่งฉันใด บนวัย 16 ปี วันนี้ของอีริค เขาอาจจะเป็น "หงส์น้อย" ที่กำลังหัดบินผ่านอุปสรรคกีดขวางนานับประการ บนเส้นทางลูกหนังวันนี้ เราคงหวังเห็น อีริควันวันรุ่ง เป็น "พญาหงส์" ที่ไปถึงดวงดาวสมใจหวัง เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในอนาคตเข้าสักวัน