อยู่กับน้า...ต้องวิ่ง 10 โล แล้วห้ามหอบ!!

อยู่กับน้า...ต้องวิ่ง 10 โล แล้วห้ามหอบ!!
​
นี่คือปรัญชาการทำทีมของ "น้าฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม กุนซือมากประสบการณ์วัย 71 ปี ที่ไม่ว่าจะไปคุมทีมไหน ความฟิตจะต้องมาเป็นอันดับ 1 เสมอ
​
"น้าฉ่วย" เคยเล่าว่า ตนเองชอบวิธีการทำทีมของทีมชาติเกาหลีใต้ ที่เน้นเรื่องความฟิตเป็นหลัก จึงเอามาประยุกต์ใช้กับฟุตบอลไทย เพราะมองว่านักเตะไทยมีเบสิกดีอยู่แล้ว ขาดแค่พละกำลังเท่านั้น
​
"น้าฉ่วย" ยึดมั่นในแนวทางนี้เสมอมา และทำให้เขามีผลงานที่ดีในการคุมทีม ไม่ว่าจะเป็นกับ สมุทรสงคราม เอฟซี, สุโขทัย เอฟซี, ศรีสะเกษ เอฟซี, หนองบัว พิชญ หรือ ตราด เอฟซี
​
นอกจากนั้น "น้าฉ่วย" ยังเคยพา ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ในชุดของ ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, นฤบดินทร์ วีระวัฒโนดม เอาชนะ เกาหลีใต้ 1-0 และเสมอญี่ปุ่น 0-0 มาแล้ว ในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก เมื่อปี 2011
​
ซึ่งตอนนั้น "น้าฉ่วย" จับเด็กชุดนี้วิ่งกันจนหอบ แต่สุดท้ายก็หักปากเซียนด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ
​
ด้วยการทำทีมแนวทางนี้ แม้จะโดนหลายคนวิจารณ์ว่าล้าหลัง แถมยังเคยถูก บิล โรซิมาร์ กองหน้าชาวบราซิลสมัยคุมทีม เชียงใหม่ ยูไนเต็ด คอมเมนต์แซะว่า "โค้ชคนนี้ไม่เข้าใจฟุตบอล รู้แค่ฝึก 11×11 กับวิ่ง 10 km นี่ไม่ใช่ฟุตบอล แต่เหมือนวิ่งมาราธอนมากกว่า"
​
ทว่า "น้าฉ่วย" ก็ไม่สนใจ เขายังคงเป็นโค้ชจอมฟิตเหมือนเดิม ทุกทีมที่ผ่านมือเขา จะต้องซ้อมเช้า ซ้อมเย็น และวิ่งให้ได้ 10 กิโลเมตร แบบห้ามเหนื่อย!!!
​
ปัจจุบัน "น้าฉ่วย" ได้เข้ามาคุมทีม Sisaket United ซึ่งเป็นเหมือนบ้านหลังเก่าของเขา และแน่นอนว่ากุนซือเฒ่าคนนี้ก็มาพร้อมกับปรัชญา "วิ่งไม่มีหมด" เหมือนเดิม
​
ช่วงเช้าจับนักเตะวิ่ง 7-10 กิโลเมตร ส่วนช่วงเย็นค่อยมาซ้อมแท็คติก แถมบางวันยังให้วิ่งบนลู่วิ่งเพิ่มอีกด้วย
​
ไม่ฟิตให้มันรู้ไปสิ!!
​
ใครจะว่าน้าเชย ไม่สน! ใครจะว่าล้าหลัง ก็ช่าง! แต่รับประกันได้เลยว่า "ลำดวนเพลิง" ฤดูกาลนี้ วิ่งไม่มีหมดแน่นอน...
​
#ThaiLeague2 #ไทยลีก2